บทที่ 6 5

องศาเป็นฝ่ายออกไปแจ้งญาติ ๆ ส่วนเซลีนนั้นถอดเครื่องแบบปนเปื้อนและล้างไม้ล้างมือเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินปลีกออกไป แต่บังเอิญเจอธารีที่โถงทางเดินพอดี

“พี่” / “นุ้ง”

สองสาวใจตรงกัน ก่อนธารีที่รู้ดีว่าพี่สาวเจอมากับตัวแล้วจะให้พูดก่อน

“องศาคือคนที่มาแทนหมอสิเหรอ?”

“อือ”

“เวรละ!”

เซลีนสบถอย่างหัวเสีย เมื่อคืนเธอชะล่าใจ คิดว่าจังหวัดนี้ตั้งกว้างใหญ่ แค่บังเอิญเจอกันในงานลอยกระทงใช่ว่าเขาจะหาที่อยู่เธอเจอได้ แต่สุดท้ายดันมาทำงานที่เดียวกันเสียนี่

“เอาไงดี ไหนจะเรื่องน้องนาทีอีก ถ้าอิองมันรู้เข้าจะเป็นยังไง เมื่อก่อนมันตามพี่ยังกะปลิง ตอนนี้มันคงไม่ปล่อยพี่ไปง่าย ๆ หรอก”

“ใจเย็น ๆ ก่อนนุ้ง”

เซลีนเองก็พยายามใจเย็นแม้เรื่องที่ธารีพูดมันคือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็ตาม

“พี่คิดว่าเขาคงตัดใจจากพี่แล้วมั้ง เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เขาก็น่าจะมีใหม่แล้วแหละ องศาไม่ใช่ผู้ชายที่จะทนของขาดได้นานเป็นปี ๆ ถ้าเลี่ยงที่จะทำงานด้วยกันไม่ได้ก็แค่ต่างคนต่างอยู่ก็พอ”

“แต่ถ้าไม่ล่ะ”

“...”

“หรือไม่มันก็มีคนใหม่อยู่แล้ว แต่อยากกลับมาเคี้ยวของเก่าอย่างพี่ด้วย”

ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือเห็นทรงร้าย ๆ ก็ทายว่าร้ายเอาไว้ก่อน แต่นี่ธารีเห็นฤทธิ์องศามาเยอะแล้ว ทำให้หล่อนคิดในแง่ดีไม่ได้เลย เซลีนเองก็อดคิดไม่ได้เช่นกัน

“มันคงไม่กล้าทำแบบนั้นกับพี่อีกแล้ว”

“พี่มั่นใจในตัวมันด้วยเหรอ นั่นใคร? อิองนะจ๊ะ”

หนึ่งปีที่ผ่านมาธารีเข้าใจดีว่าเซลีนเจ็บปวดแค่ไหน และรู้อีกนั่นแหละว่าเจ้หล่อนยังลืมองศาไม่ได้ ขนาดชื่อของลูกชายยังตั้งให้คล้องจองกับชื่อของคนเป็นพ่อเลย ‘องศา นาที’ แต่เซลีนก็น่าจะรู้จักนิสัยขององศาดีกว่าใคร

“รอดูไปก่อนละกัน”

เซลีนรู้สึกเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ นึกถึงลูกน้อยแล้วยิ่งสงสาร น้องนาทีเพิ่งจะอายุสามเดือน จะให้เธอพาลูกหนีไปอีกคงไม่ไหว

“แต่ว่าก่อนอื่นเลย องศาก็แค่มาแทนหมอสิที่โดนหมอเบญบีบให้ลาออก เป็นการมาชั่วคราวเท่านั้น ข้อนี้พี่มั่นใจเพราะพี่เพิ่งคุยกับฝ่ายบุคคลเมื่อวันก่อน เราแค่ต้องเก็บเรื่องน้องนาทีเป็นความลับระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่ก็พอ”

“ก็ใช่จะไม่มีใครรู้ว่าพี่มีลูกนี่นา”

“ก็แค่ส่วนน้อย แต่ก็ไม่แน่หรอก แต่พี่มีแผนแล้ว”

“แผนอะไร”

เซลีนเล่าแผนการที่เธอคิดได้ให้น้องสาวฟัง ธารีคิดว่ามันไม่แนบเนียนเท่าไหร่เพราะตัวแปรหนึ่งที่ทั้งเธอและหล่อนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เตรียมรับมือเลยนั่นแหละ

ผ่านช่วงมหาโหดที่ทำให้แผนกศัลยกรรมวุ่นวายไปอีกช่วงหนึ่งแล้ว ซึ่งมันทำให้เซลีนไม่มีเวลาอยู่กับลูก จะลาออกตอนนี้เลยก็ไม่ได้เพราะมีเรื่องสำคัญที่เธอต้องตามต่อ เรื่องที่ทำให้หมอสิรินทร์ต้องโดนบีบให้ลาออก ไหนจะคนไข้เปลี่ยนหัวใจที่เธอต้องรับผิดชอบอีก

ถ้าจัดการเรียบร้อยคงจะใช้เวลาอยู่กับลูกสักสี่ห้าปี อาจจะเปิดธุรกิจเล็ก ๆ ต่อยอดเงินที่มี รับบรรยายพิเศษบ้างเป็นบางโอกาส ไม่ใช่ต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำอย่างนี้

เธอไม่ต้องพึ่งการทำงานหนักเพื่อลืมใครบางคนแล้ว เพราะมีคนที่สำคัญกว่าให้ต้องทุ่มทั้งใจ เด็กน้อยที่เป็นเหมือนแสงแดดอุ่น ๆ เยียวยาหัวใจของเธอและเป็นทั้งยาวิเศษที่เพียงแค่เห็นหน้าก็หายเหนื่อย ขณะนั่งปั๊มนมอยู่ในห้องล็อกเกอร์ เซลีนก็เลื่อนดูภาพไอ้ต้าวจ้ำม่ำในมือถืออย่างมีความสุข

อยากกลับไปกอดเสียตอนนี้เลย...

ทว่าทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ใกล้เข้ามาทำให้ต้องรีบเก็บอุปกรณ์ลงตะกร้าแล้วเก็บยัดตู้ เธอไม่ได้ปิดบังใครเรื่องลูกจนกระทั่งองศาโผล่มานั่นแหละ แถมเจ้าของฝีเท้านั้นยังเป็นเขาอีกต่างหาก

เซลีนสบตาชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาในห้องล็อกเกอร์แต่ไม่ได้พูดอะไร หลายวันแล้วที่เขาย้ายมาและเธอไม่เห็นความจำเป็นจะต้องคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว จึงทำท่าจะเดินสวนออกไป แต่กับองศามันไม่ใช่อย่างนั้น

“เดี๋ยว” แขนใหญ่ดันประตูเอาไว้ไม่ทันที่เธอจะได้เปิดมัน “ใจคอจะหลบหน้ากันตลอดเลยเหรอ”

“ไม่ได้หลบ”

เธอช้อนตามองหน้าเขา แววตากระด้างช้อนมองเขาเล่นเอาหัวใจขององศาอ่อนยวบ หากนั่นยังไม่เท่าคำพูดกรีดเฉือนหัวใจ

“เราจบกันแล้วอง ต่างคนต่างอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ”

“กลัวเหรอ?”

องศาแกล้งพูดยั่วโมโห จนได้เห็นเมียรักถลึงตาเข้าใส่ ก็รู้ว่าตัวเองมาถูกทาง เพราะในเมื่อคุยกันดี ๆ ไม่ได้เขาก็ต้องหาวิธีอื่นมาเรียกร้องความสนใจ

“เข้าใจผิดแล้วมั้ง”

“ถ้าไม่กลัวแล้วหนีมาทำไม”

เซลีนพูดไม่ออก แต่ในใจรู้สึกเจ็บเหมือนแผลเก่าถูกสะกิด

เรื่องที่ทำให้เธอหนีมางั้นหรือ...

เขาเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ เขาทำร้ายเธอ ส่วนเธอก็ทำลายชีวิตเขา ไหนจะเรื่องคืนนั้นที่เขาหักหาญน้ำใจกันอีก มันไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเราสามารถอยู่ด้วยกันหรือแม้แต่จะทนมองหน้ากันได้เลย

“แล้วตอนนี้พักอยู่ที่ไหน ชีวิตเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”

แท้จริงแล้วองศาแค่เพียงอยากรู้ว่าเธอเป็นอย่างไร ชีวิตช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอก้าวต่อไปได้แล้วหรือไม่ หรือยังเจ็บแค้นกับความระยำที่เขาทำเอาไว้จนไม่กล้าที่จะเปิดใจให้ใคร

ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่เขาได้แต่เฝ้ามองเธออยู่ไกล ๆ เห็นเธอยังคงทำงานหนักเหมือนในอดีต แต่มีผู้ชายท่าทางอ้อนแอ้นมารับมาส่ง ซึ่งเขาดูออกว่าไม่น่าจะใช่แฟน ได้รู้ว่าเพื่อนร่วมงานชื่อไอซ์กับหัวหน้าแผนกไม่ชอบเธอเอาเสียเลย ไหนจะการที่เธอชอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ เขาคิดว่าเธอน่าจะมีปัญหาบางอย่าง ถึงใจเขาจะยังรักเธอไม่เคยเปลี่ยนแต่กว่าจะกล้าเข้าใกล้เธอก็ใช้เวลานานทีเดียว

“ไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องมาสนใจ”

หญิงสาวปัดมือองศาออกแล้วทำท่าจะเปิดประตู ทว่าแขนข้างนั้นกลับกระหวัดเธอเข้าไปกอดรัด

“สนสิ”

“องศา ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

เซลีนดิ้นรนสุดกำลังพลางสองมือก็ทั้งทุบทั้งจิกแขนใหญ่ เกือบตายใจแล้วเชียวว่าครั้งนี้เขากับเธอต่างคนต่างอยู่ เธอเสียดายที่เคยมองเขาในแง่ดี

“ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเคยเป็นอะไรกัน หือ?”

“ไอ้องศา ไอ้บ้า ปล่อยฉัน”

“สะดีดสะดิ้งจังเลยนะที่รัก ฉันอยากให้เธอเฟลิร์ตฉันแบบตอนที่เราแต่งงานกันมากกว่า”

“อย่างนายฉันไม่ลดตัวไปทำอย่างนั้นเป็นครั้งที่สองแน่”

“งั้นเอาเป็นว่า ให้ฉันเป็นฝ่ายทำอย่างนั้นเอง เอาไหม”

คนตัวสูงหมุนตัวดันเธอจนหลังบางชิดกับฝาตู้เหล็ก โอบรัดเธอด้วยแขนซ้ายและกักขังด้วยแขนข้างขวา

“อย่ามาลองดีกับฉันนะอง นายก็รู้ว่าฉันไม่เคยปล่อยให้คนที่ทำร้ายฉันอยู่เป็นสุข”

“ทำร้ายเหรอ?” เขาแกล้งหัวเราะเยาะ “แบบนี้เรียกทำร้าย?”

“จะลองดูไหมล่ะ”

“สุดแล้วแต่เธอจะกรุณา แต่ฉันมั่นใจเลยนะ ว่าครั้งนี้ฉันจะไม่ทำอะไรให้เธอเอามาเป็นจุดอ่อนได้อีก เพราะงั้นเธอคงต้องทนทำงานกับฉันไปจนอกแตกตายแล้วแหละ ที่รักจ๋า”

เขาโน้มลงไปสูดความหอมจากร่างกายที่เขาถวิลหาทั้งในยามหลับและยามตื่นเข้าไปเต็มปอด ต่อให้เธอจะทำงานมาทั้งวันกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ ก็ไม่จางหายไป หากเขากลับได้กลิ่นหวานนุ่มของนมผสมมาด้วย

น้ำหอมกลิ่นใหม่หรือเปล่านะ...

“โอ๊ย!” องศาร้องเสียงหลงเมื่อเซลีนขยุ้มท้ายทอยเขาแล้วรั้งออกเต็มแรง แถมยังจ้องตาเขาด้วยแววตามาดร้ายน่ากลัว

“อย่างน้อยตอนนี้นายก็กำลังคุกคามทางเพศฉัน ทั้งคำพูดและการกระทำ” มืออีกข้างของเธอชูมือถือขึ้น ซึ่งตอนนี้กำลังใช้งานโพรแกรมบันทึกเสียงที่เซลีนกดบันทึกตั้งแต่ตอนที่เขาเอามือขวางประตูแล้ว

“ให้ตายเถอะเซล!” เขาสบถลั่นแล้วจำต้องผละออกจากเธออย่างเสียไม่ได้

องศาไม่เคยพบเคยเห็นผู้หญิงคนไหนร้ายกาจเท่าเมียรักคนนี้มาก่อนเลย ส่วนเขาเองก็แพ้ทางให้กับมุกเดิม ๆ อยู่เสมอ

“เธอมันนางมารร้ายชัด ๆ”

“ปกติฉันก็เป็นนางฟ้า” เธอว่าพลางกระตุกยิ้มร้ายกาจ “แต่มันมักจะมีมารมาผจญทำให้ฉันตบะแตกทุกครั้ง”

“ฉันก็เป็นมารเหมือนกันเหรอ...”

องศาแกล้งทำท่าครุ่นคิดพลางมองเธอสายตากรุ้มกริ่ม เซลีนยังคงคอนเซ็ปต์เซ็กซี่พริกสิบเม็ดอย่างที่เขาเคยหลงใหล

“งั้นแสดงว่าเราเกิดมาคู่กันสินะที่รัก”

“เหอะ! คู่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้คือถ้านายทำแบบเมื่อกี้กับฉันอีก ฉันจะรายงานเรื่องนี้ต่อหัวหน้าแผนก แล้วถ้ายังไม่หยุด ฉันจะส่งให้เบื้องบน นายจะบอกว่าฉันอ่อยนายก่อนเหมือนผู้ชายหน้าตัวเมียชอบพูดก็ได้ แต่ฉันไม่แคร์ แล้วเรามาดูกันว่าคำพูดของนายหรือว่าหลักฐานของฉัน อะไรมันจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน”

“ฉันสู้เธอไม่ได้จริง ๆ เซล”

“แน่นอน” เธอยักไหล่ “แต่จะบอกให้เอาบุญ ฉันน่ะปกติก็ไม่ค่อยอยากเปิดสงครามกับใครหรอก เปลืองพลังชีวิต แต่ถ้ามีใครมาทำอะไรฉันก่อน สงครามมันก็น่าสนุกดีเหมือนกัน”

มือสวยผลักอกองศาออกไปให้พ้นทางแล้วเดินเชิดหน้าออกจากห้องนั้นไป ชีวิตสงบสุขที่เธอวาดฝันไว้มาไกลได้แค่นี้เองสินะ ต่อจากนี้คงต้องห้ำหั่นกับไอ้บ้าในห้องนั้นจนกว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งยอมถอยอย่างนั้นหรือ

น้องนาทีร้องไห้โยเยมาตั้งแต่เช้ามืดแถมตัวร้อนมากจนเซลีนต้องโทร. ลางานเพื่ออยู่ดูแลลูกน้อย โดยธารีที่เป็นห่วงหลานมาก ๆ ก็ใช้เวลาพักเที่ยงขับรถมาดูหลานด้วย

“โถ ๆ น้องนาทีของน้า น่าสงสารจัง ดูซิ แก้มงี้แด๊งแดง คงจะไม่สบายตัวมาก ๆ เลยสิท่า”

เด็กชายนาทีหน้าตาบ้องแบ๊วตวงตาเปล่งประกายใสแจ๋ว ไม่พอแก้มยังตุ้ยนุ้ยน่ากัดไหนจะแขนเป็นปล้อง ๆ นั่นอีก

สำหรับธารี หลานชายไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นเทวดาตัวน้อยตกทาสรัก (เด็ก) อย่างหล่อนให้หลงหัวปักหัวปำวันละหลาย ๆ รอบมากกว่า

“อาการค่อย ๆ ดีขึ้นแล้วแหละ เริ่มกลับมากินจุเหมือนเดิมแล้วด้วยนะ”

“นุ้งไม่อยากไปทำงานเลยพี่ อยากอยู่กับหลานมากกว่า”

หล่อนดึงศีรษะออกมาจากเปลเด็กแล้วหันมองเซลีนซึ่งกำลังนั่งปั๊มนมอยู่

“นุ้งเป็นห่วงหลานจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน”

“วางใจเถอะนุ้ง พี่อยู่นี่ทั้งคน ว่าแต่ที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง”

“พอขาดคนไปคนนึงก็เหมือนจะวุ่นวายขึ้นมาทันทีเลย แต่โชคดีได้ท่านประธานลงมาช่วยก็เลยไม่วิปโยคเท่าไหร่ ส่วนอิองศา มันมาถามหาพี่แต่เช้าเลย แต่นุ้งไม่บอกอะไรมันหรอก”

เซลีนชะงักไปชั่วขณะเมื่อน้องสาวพูดชื่อผู้ชายคนนั้น และจากที่ได้ฟัง ดูท่าองศาคงไม่คิดจะเลิกยุ่งกับเธอง่าย ๆ

“แง๊ แง๊”

ตอนนั้นเองที่น้องนาทีร้องไห้ขึ้นมาอีก ไม่รู้เพราะไม่สบายตัวหรือเป็นเพราะได้ยินชื่อพ่อ ธารีค่อย ๆ อุ้มเด็กชายออกจากเปลแล้วส่งให้คนเป็นแม่

“โอ๋ ๆ เป็นอะไรคะลูก”

“แง๊...”

“คงจะได้ยินชื่อแสลงหูหรือเปล่าพี่”

ธารีเองก็คิดเหมือนกัน แต่ความจริงมันใช่เสียที่ไหน เพราะเด็กน้อยทำปากแจ๊ะ ๆ ไปด้วยแบบนี้

“อย่าพูดให้หลานได้ยินแบบนั้นสินุ้ง”

เซลีนไม่ได้อยากจะปลูกฝังให้ลูกเกลียดพ่อ ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำกับแม่อย่างเธอจะน่ารังเกียจแค่ไหนก็ตาม

“น้องนาทีหิวต่างหากครับน้าธาร”

“โอย เพิ่งกินไปเมื่อสิบนาทีนี้เองไม่ใช่เหรอไอ้ต้าวของน้า”

“บอกแล้วว่ากินจุ” คนเป็นแม่ทำพยักพเยิดกับลูกชายที่พออ้าปากงับหัวนมได้ก็อารมณ์ดีขึ้นมา “นาทีอยากโตไว ๆ จะได้มาวิ่งเล่นกับคุณแม่เนอะ ใช่ไหมครับ”

“ฮื่อ ๆ”

ทารกน้อยตาใสแป๋วหัวเราะในลำคอพลางดูดนมแม่จ๊วบ ๆ เป็นที่ชอบอกชอบใจของน้าธารเหลือเกินจนหล่อนแทบจะโทร. ไปลางานอีกคนเพื่อนั่งมองหลานอยู่แบบนั้น

ในขณะเดียวกันองศาที่กระวนกระวายใจตั้งแต่รู้ว่าเซลีนลาป่วยเขาก็พยายามถามหาที่อยู่ของเธอจากเพื่อนร่วมงานแต่ไม่มีใครรู้เลย จึงต้องเข้าทางฝ่ายบุคคล แต่ทว่ามันเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ยากต่อการเปิดเผย

“นะครับ แค่บอกผมมาก็พอ ผมแค่จะไปเอาเอกสารเกี่ยวกับคนไข้ที่ต้องรักษาด่วนที่สุดแต่เธอไม่ได้ฝากใครมาให้ผมน่ะครับ ผมติดต่อเธอไม่ได้เลยด้วย”

“ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”

“แต่คนไข้รายนี้เป็นคนไข้ Vvip นะครับ ครอบครัวมีอิทธิพลมากด้วย ถ้าเกิดอะไรกับเธอขึ้นมา โรง’บาลเราต้องเสียหายแน่ ๆ แล้วคงเป็นความเสียหายที่ต่อให้ทั้งผมแล้วก็คุณร่วมกันรับผิดชอบก็คงไม่ไหว”

“...”

ทักษะพูดโน้มน้าวใจขององศาได้ผล เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเริ่มแสดงอาการลังเลให้เห็น

“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปบอกเธอว่าผมไม่สามารถไปเอาเอกสารบ้านหมอเซลีนได้ ขนาดไปถามฝ่ายบุคคลตามที่เธอบอกแล้วผมก็ยังไม่ได้ที่อยู่หมอเซลีน” แสร้งพูดเสียงเศร้า ๆ

“โอเค ๆ” ในที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องยอมจำนนเพราะกลัวเรื่องจะถึงตัวเอง “จดนะคะ”

องศาที่เคลียร์งานให้ว่างแล้วก็ขับรถไปตามที่อยู่ที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อบ้านที่เป็นปลายทางคือบ้านร้าง เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าที่เซลีนต้องปกปิดที่อยู่กับทุกคนแบบนี้เป็นเพราะเจ้าหล่อนมีความลับซ่อนอยู่

ความลับ... ที่ล่อจิตล่อใจให้เขาอยากรู้เหลือเกิน

+ + +

เซลีนหายไปสองวันเล่นเอาคนที่มีความสุขเพียงแค่ได้เฝ้ามองเธออยู่ไม่ไกลถึงกับเศร้า ขนาดไปตามหาที่บ้านแต่ก็ยังเจอบ้านร้างแทน แต่วันนี้หญิงสาวโผล่มาทำงานแล้ว สีหน้าไม่เหมือนคนเพิ่งหายป่วย อาจจะเป็นเพราะเครื่องสำอางบนใบหน้าสวย ๆ นั่นที่ช่วยกลบร่องรอยต่าง ๆ เอาไว้ก็ได้

“ไม่สบายเป็นอะไรเหรอที่รัก”

อาจารย์แพทย์คนใหม่เดินเข้ามากระซิบระหว่างทางไปแผนกพยาธิวิทยาเพื่อเอาผลตรวจชิ้นเนื้อ

“พูดอะไรระวังปากหน่อยอง”

“ระวังทำไม นี่เราก็อยู่กันแค่สองคน”

“อย่ามากวนได้ไหม”

“ก็แค่กวนเองเปล่า” เขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย “ไม่ได้ทำร้ายหรือคุกคามทางเพศอย่างที่ที่รักไม่ชอบเลยนี่นา”

“คำว่าที่รักของนาย มันก็ไม่ต่างกัน”

“มันคือคำที่ใช้เรียกคนที่เรารัก”

“...”

เซลีนหันไปมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังจะพูดแต่คำนั้นอยู่ได้

“ห้ามไม่ให้พูด ก็เหมือนห้ามไม่ให้รัก ห้ามไม่ให้รักก็เหมือนห้ามไม่ให้หายใจ” เขาทำเจ้าบทเจ้ากลอน

“อง!”

เธอหยุดเดินแล้วจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มหน้าเป็นให้เธอเสียนี่

“จ๋าที่รัก”

“ฉันไม่ใช่ที่รักของนาย”

“ไม่ใช่ได้ยังไง เมื่อก่อนเรารักกันแค่ไหนจำไม่ได้แล้วเหรอ”

เขาเท้าเอวแล้วหมุนสะโพกเป็นวงกลมทำให้คิดอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเรื่องอย่างว่า

“ทะลึ่ง!”

“ทะลึ่งแต่รักนะ”

“โอ๊ย! นี่พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม”

“ไม่รู้เรื่องตรงไหน”

คุณพระคุณเจ้า... เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเธอจริง ๆ งั้นหรือ แล้วองศากวนตีนขนาดนี้ ไม่รู้ว่ามันมีชีวิตรอดอยู่จนถึงอายุสามสิบสามได้ไง

“พอละ วันนี้ขอสงบศึก ฉันอยากทำงานอย่างปกติสุข โอเค้?”

“ครับที่รักครับ”

เขามองตามคนที่เดินหนีไปด้วยตาเยิ้ม ๆ แต่สองเท้ายังเดินตามหลังเธอไม่ห่าง

แต่พอไปถึงเซลีนกลับต้องเจอกับเรื่องที่อาจพลิกชะตาชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะตัวอย่างชิ้นเนื้อของลูกค้า Vvip ที่แม้แต่การเข้ารับการรักษายังเป็นความลับนั้นหายไป เลยทำให้ยังไม่ได้ทำการตรวจ แถมนั่นยังเป็นตัวอย่างชิ้นเดียวที่สามารถเก็บได้ในตอนนี้อีกต่างหาก

“หายไปได้ยังไงคะ”

“เอ่อ จำได้ว่าวันก่อนหมอสายป่านเอามาให้แล้ว ผมเอาใส่ไว้ใน rack นี้รวมกับรายการอื่น ๆ แต่เมื่อวานผมมาดูก็ไม่เห็นแล้วครับ”

“แล้วทำไมไม่แจ้งพี่ก่อน”

เซลีนถามอย่างหัวเสีย เสียงเข้ม ๆ ของเธอพาให้หมอพยาธิที่น่าจะอายุน้อยกว่าถึงกับหงอ

“เมื่อวานเราทั้งแผนกพยายามตามหาแล้วครับ คิดว่าถ้ามันยังอยู่ในห้องนี้เราน่าจะเจอก่อนที่พี่จะมา แต่ว่าก็ไม่เจอครับ ตอนนี้หัวหน้าแผนกของพวกเราก็ไปตามหาตามเส้นทางที่ส่งมาอยู่ครับ”

“ไม่ทันละ”

เซลีนเป่าปากระบายความวิตกกังวล งานนี้พังแน่ทั้งหน้าเธอและอนาคตของเธอ

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะฝ่ามือเรียวบางแต่หนักเน้นของลูกสาวเจ้าพ่อในประเทศเพื่อนบ้านฟาดเข้าเต็มหน้าเซลีน ในฐานะแพทย์ผู้รับผิดชอบจนหน้าหัน

องศาถึงกับอึ้งเพราะเขารับมือคนไข้ระดับนี้มาเยอะก็จริงแต่ไม่เคยเจอใครที่ลงไม้ลงมือกับหมอแบบผู้หญิงคนนี้มาก่อน

“ทำไมแกถึงโง่แบบนี้ หา? เรื่องแค่นี้ยังพลาด แล้วแกจะรักษาฉันได้ยังไง คอยดูนะ ฉันจะเล่นงานแกไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลย”

เซลีนกำหมัดแน่นพลางเหลือบตามองหมอเบญซึ่งเข้ามาแสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าแผนกเช่นกัน แต่กลับมีแค่เธอที่ต้องรองรับอารมณ์แม่นี่

เธอคิดว่าหมอเบญน่าจะมีส่วนที่ทำให้แม่นี่เลือกเธอทั้ง ๆ ที่รายนี้เป็นคนไข้ของหล่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบีบให้เธอลาออกเหมือนหมอสิรินทร์

“ขอโทษค่ะ หมอจะออกไปตามหาอีกรอบ จะหาให้เจอภายในวันนี้ค่ะ”

“ภายในวันนี้เหรอ นังบ้า!”

“...”

“ฉันนอนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมโง่ ๆ นี้มาตั้งสองวันแล้วนะ แกต้องให้ฉันรออีกถึงเมื่อไหร่”

“ปกติหลังผ่าตัด คนไข้ต้องนอนดูอาการในโรงพยาบาลอยู่แล้วค่ะ อีกอย่าง วันนี้หมอยังไม่อนุญาตให้คุณเพนนีออกจากโรงพยาบาลนะคะเพราะยังมีความเสี่ยงอยู่มากค่ะ”

“หน็อย นังนี่!”

หล่อนร้องอย่างขัดใจ เห็นความปากเก่งของนังหมอโง่นี่แล้วชักทนไม่ไหว เพนนีเงื้อมือขึ้นจะตบเซลีนอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นองศาที่เอาหน้ามารับฝ่ามือแทนเธอ

เผียะ!

“แกเสือกอะไรด้วย”

หล่อนแหวใส่องศาด้วยเสียงแหลมน่ารำคาญ เขาจ้องตาหล่อนอย่างไม่กลัวแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมที่สุด

“ผมก็เป็นแพทย์ที่รับผิดชอบคุณเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะลงไม้ลงมือ ก็ลงกับผมเถอะ”

เซลีนเหลือบมองเขาแล้วส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่เพื่อปกป้องเธอแล้ว ต่อให้โดนการ์ดของเพนนีที่รายล้อมอยู่จับไปซ้อมเขาก็ไม่กลัว

“ได้”

คุณหนูเพนนีระบายความโกรธแค้นที่ไม่รู้ขุดมาจากนรกหลุมไหนใส่ร่างกายองศาแบบไม่ยั้ง ทั้งฝ่ามือ ทั้งหมัด พอไม่สาแก่ใจก็หยิบสิ่งของใกล้มือขว้างปา เมื่อหล่อนหมดแรงถึงได้โตะโกนไล่ให้ทั้งสองคนออกไปตามหามาให้ได้

“เจ็บมากไหมเซล”

พอปิดประตูห้องนั้นได้ องศาก็ยื่นมือไปเชยคางงามมนของอดีตภรรยาขึ้นมาเบา ๆ พิศมองรอยแดงจากฝ่ามือนังปีศาจคนนั้นแล้วก็สะท้อนในอก

เมื่อกี้เขาไม่สามารถปกป้องคนที่ตัวเองรักได้เลย เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นมีสถานะเป็นคนไข้ Vvip มันเป็นความจริงที่ทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า

“ฉันไม่เป็นไรหรอก” เซลีนตัดสายตาจากแววตาอ่อนโยนนั้นได้ก็ปัดมือเขาออกอย่างละม่อม “นายควรห่วงตัวเองมากกว่า”

“แค่นี้ไม่เจ็บมากหรอก”

“คราวหลังไม่ต้องออกหน้าอะไรแทนฉันทั้งนั้น”

“ที่รักเป็นห่วงเค้าเหรอ”

“เปล่า แต่ฉันไม่ต้องการ ได้โปรดอย่าทำให้ฉันรู้สึกติดหนี้บุญคุณคนอย่างนาย”

ถึงจะเสียใจที่ได้ยินแบบนี้แทนที่จะเป็นคำขอบคุณ แต่องศาก็ทำใจมาแล้วว่าเขาคงคาดหวังมากกว่านี้จากคนใจแข็งอย่างเซลีนไม่ได้

“ยังไงก็เถอะ ไปห้องทำงานเค้าก่อนมะ เค้ามีเจลเย็นอยู่ในตู้เย็น ที่รักต้องรีบประคบก่อนถ้าไม่อยากให้หน้าสวย ๆ เป็นรอย”

คำว่าตู้เย็นทำให้เขาฉุกคิดบางอย่างได้

“ไม่ต้อง ห้องฉันก็มี”

“เซล... ฉันคิดว่าฉันรู้ ว่าเราจะไปหาตัวอย่างที่หายไปจากที่ไหน”

เซลีนหรี่ตามองคนที่เหมือนเพิ่งจะคิดอะไรออก

“ที่ไหน”

องศาพาเซลีนไปที่ที่เขาคิด ซึ่งเจอตัวอย่างชิ้นเนื้ออยู่ในนั้นจริง ๆ มันทำให้เธอโล่งใจเหลือเกิน เท่ากับว่าไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอแล้ว

หมอเบญไม่อยากเชื่อว่าสองคนนี้จะหาตัวอย่างชิ้นเนื้อจนเจอได้ หล่อนพยายามพูดให้เพนนีเชื่อว่าเซลีนเอาของคนไข้คนอื่นมาสวมรอย แต่เซลีนท้าทายให้หล่อนเอาไปตรวจดูเลยว่าใช่ของเพนนีหรือเปล่า นั่นทำให้หล่อนหาเรื่องมาเถียงไม่ได้

“ดูเหมือนพี่เบญจะไม่ค่อยอยากให้เราหาเจอเท่าไหร่นะคะ”

“หมายความว่าไง”

เพนนีหันไปมองหน้าหมอเบญอย่างต้องการคำตอบ หล่อนยักไหล่ไม่เข้าใจแถมกลบเกลื่อนและยังรักษามาดนิ่งได้อย่างน่าหมั่นไส้ องศาทนไม่ไหวเลยโพล่งออกไปว่า

“วันก่อนผมไปที่แล็บพยาธิ ว่าจะเร่งให้เขาวิเคราะห์ตัวอย่างของคุณเพนนีเร็ว ๆ แต่ผมดันเจอหมอเบญอยู่ในห้องนั้นตามลำพัง”

“แล้วยังไงเหรอคะ แค่นั้นก็คิดว่าพี่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเหรอ?”

“เกี่ยวแน่นอนอยู่แล้วครับ”

องศายิ้มตอบความเสแสร้งของหล่อน เพียงแค่คิดว่าคนตรงหน้าเป็นต้นเหตุให้เซลีนโดนตบ เขาก็อยากเห็นหล่อนโดนแบบเดียวกันบ้าง

“อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อนะคะ พี่ก็บอกแล้วว่าพี่เข้าไปเอาไอศกรีมที่พี่ฝากแช่ไว้ในตู้เย็นห้องพยาธิ”

“แต่ทำไมต้องเป็นห้องพยาธิด้วยล่ะครับ แถมไอศกรีมกระปุกที่พี่หยิบไปก็ดันเป็นชื่อของหมอคนอื่น”

หมอเบญเลิ่กลั่ก ยิ่งเจอสายตาคาดคั้นของเพนนีหล่อนก็เริ่มเสียอาการ

“เอ่อ พี่คงหยิบผิดมั้งคะ หมอองศาตาดีนะเนี่ย”

“แล้ววันนี้ผมก็ดันอยากรู้ ว่านอกจากหยิบไอศกรีมไปผิดกระปุกแล้ว พี่ได้หยิบอย่างอื่นไปผิดอีกไหม เช่นตัวอย่างชิ้นเนื้อของคุณเพนนี แล้วให้เดาครับว่าผมเจออะไรในห้องทำงานของพี่”

เขาจ้องตาหมอเบญพลางยกยิ้มรู้ทัน สิ่งที่เขาเจอก็คือกระปุกตัวอย่างของเพนนีที่เบญเอาใส่ถุงซิปล็อกแล้วเก็บไว้อย่างดี

เป็นอย่างที่เขาคิด ว่าหมอเบญไม่ได้เหี้ยมพอจะทำให้ตัวอย่างนั้นสูญเปล่า คิดว่าถ้าเขาไม่เปิดโปงหล่อนได้ก่อน หล่อนคงใช้มันมาเอาหน้ากับเพนนีทีหลัง แล้วตอกย้ำความบกพร่องของเซลีนเข้าไปอีก

“นี่น้องสองคนค้นห้องทำงานพี่เหรอ?”

“นั่นมันใช่ประเด็นมะ!”

เพนนีโพล่งขึ้นขัดจังหวะเพราะกำลังหัวเสีย ก่อนสาวเท้าเข้าไปประชิดตัวหมอเบญ

“คะ... คุณเพนนี มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ หมอแค่หยิบผิดก็เท่านั้นเอง”

“แล้วทำไมไม่รีบเอามาคืน”

“เอ่อ...”

เผียะ!!!

คุณหนูเอาแต่ใจฟาดฝ่ามือเข้าเต็มใบหน้าหมอเบญ ช่างสาแก่ใจองศายิ่งนัก ไม่พอเท่านั้นหล่อนยังคว้าหมับเข้าลำคอหมอเบญอย่างจัง

“แล้วเมื่อกี้แกยังมีหน้ามาตีหน้าซื่อบอกว่าไม่เห็นอีก แกคิดจะทำอะไรกันแน่ หา?”

“ปละ... เปล่านะคะ”

“เปล่าบ้านแกสิ! แล้วแกก็โบ้ยความผิดให้หมอคนนี้” เพนนีชี้ไปที่เซลีน “แกทนเห็นฉันตบหน้าคนที่ไม่มีความผิดได้ยังไง”

“หมอไม่ได้ตั้งใจ...”

“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ แกกล้าพูดคำนี้กับคนอย่างฉันเหรอ ฉันเป็นใคร แกเป็นใคร กล้าพูดคำว่าไม่ได้ตั้งใจกับฉันได้ยังไง”

เพนนีบีบคอหมอเบญอย่างแรงจนหล่อนตาเหลือกลาญกำลังจะขาดอากาศหายใจ เซลีนกับองศาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปห้ามไม่อย่างนั้นหมอเบญคงได้ลงไปคุยกับยมบาลแล้ว

“เอามือสกปรกของพวกแกออกไป”

เพนนีสะบัดองศาออกแล้วก็ผลักเซลีนจนเธอเซล้ม โชคดีที่องศารองรับร่างกายเธอไว้ได้

ด้านคุณหนูเจ้าอารมณ์ที่ได้ข่าวว่าทำร้ายคนมานักต่อนักเพราะมีพ่อชอบสปอยล์เป็นแบบอย่างก็ชี้หน้าด่าหมอเบญอีก

“ที่ฉันไม่เอาแกจนตายก็เพราะแกเคยทำประโยชน์ให้พ่อฉันมามาก แต่ครั้งนี้ไม่ว่าแกจะมีแผนอะไร แกพลาดเองที่เอาชีวิตฉันเป็นเดิมพัน ต่อไปนี้แกเตรียมตัวรับผลกรรมที่แกก่อเอาไว้ได้เลย”

หมอเบญร้องไห้โฮหมดสภาพหัวหน้าแผนกผู้น่านับถือ องศาและเซลีนมองหล่อนอย่างเวทนาแต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้เพราะทำตัวเองทั้งนั้น ซ้ำร้ายยังถูกลูกสาวเจ้าพ่อไล่ตะเพิดออกมาจากห้องนั้นอีก

นี่เป็นการรับมือกับคนหนึ่งคน แต่สูบพลังชีวิตยิ่งกว่าผ่าตัดคนไข้สิบคนติดต่อกันเสียอีก

แทนที่องศาจะได้คะแนนที่ปกป้องเธอ แต่เซลีนกลับไล่เขาให้ไปไกล ๆเพราะเขาตามเข้ามาถึงในห้องทำงาน เพียงเพื่อจะช่วยประคบหน้าให้ สร้างความรำคาญใจจนเซลีนอยากจะกรีดร้องออกมาเสียเดี๋ยวนั้น

“บอกให้ออกไปไงวะ รำคาญ”

“อย่าขึ้นวะขึ้นโว้ยกับผัวสิ”

“ผัวบ้านแกสิ”

“ง่ะ” คนที่ทิ้งตัวนั่งบนโซฟารูปตัวยูตามเธอมาติด ๆ ทำหน้ากระเง้ากระงอด “ติดเชื้อปากหมาจากยัยนั่นมาแน่เลย”

“เรื่องของฉัน”

“โอเค ๆ” ชายหนุ่มโบกมือไหว ๆ เถียงไปก็ไม่ชนะ เลยขอเข้าเรื่องสำคัญแล้วกัน

“ฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับเธอหน่อย”

“มีอะไรก็พูดมา เสร็จแล้วก็ออกไป”

อดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ ที่เอะอะก็โดนไล่ แต่ก็นั่นแหละนะ... ในอดีตเขาทำชั่วกับเธอไว้ตั้งมากมาย คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทลายกำแพงในใจเธอลงไปได้

“ฉันไม่อยากให้เธอทำอะไรหมอเบญ ถือว่าฉันขอ”

“รู้ได้ไงว่าฉันจะทำอะไร”

“ฉันรู้จักนิสัยเธอดีเซลีน”

เธอไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครที่ทำร้ายเธอลอยนวลไปง่าย ๆ และนั่นคือสิ่งที่เขากลัว อีกทั้งจากที่เพนนีพูดกับหมอเบญ ก็ชัดเจนแล้วว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกัน

“เธอรับมือคนพวกนั้นไม่ไหวหรอก”

“พูดเหมือนฉันจะกลัว แล้วก็นะ... ทำไมฉันต้องกลัว?” เธอย้อนถามราวกับจะหยั่งเชิง “นายไปรู้เรื่องอะไรมา”

“เซล เธอไม่ควรมายุ่งกับเรื่องนี้”

“นายอยู่ในแก๊งนั้นเหรอ”

“ฉันกับตำรวจกำลังตามเรื่องนี้อยู่”

รู้ทั้งรู้ว่าการเปิดเผยข้อมูลราชการมีความผิดร้ายแรง แต่กับเซลีนถ้าไม่พูดความจริงเธอคงไม่ยอมเชื่อฟังกันง่าย ๆ

เซลีนเข้าใจในตอนนั้นเองว่าที่เขาลงดอยมาอยู่พื้นราบก็เพราะสาเหตุนี้ ซ้ำร้ายมันกลายเป็นเรื่องบังเอิญที่สร้างความยุ่งยากให้เธออีกด้วย

“บอกตำรวจของนายว่าฉันจะร่วมมือด้วย”

“นี่ที่พูดไปคือไม่เข้าใจเหรอ”

“อะไร?” เธอทำหน้ามุ่ย เริ่มรำคาญองศาเต็มแก่

“ฉันอยากให้เธอวางมือ แล้วส่งข้อมูลมาให้ฉันจัดการเอง”

“พูดเหมือนนายเป็นพวกนั้น แล้วกำลังล้วงข้อมูลฉันอยู่เลย”

“ใครจะโง่ส่งฉันมาล้วงข้อมูลเมียเก่าที่จบไม่สวย”

“จะไปรู้เหรอ” เธอรู้ดี แค่อดที่จะกวนเขากลับไม่ได้ก็เท่านั้นเอง

“นี่เซล... ฉันเป็นห่วงเธอนะ อย่าเข้ามายุ่ง ฉันขอร้อง”

“ไม่รับคำขอ” เธอว่าหน้าเชิด “...ในเมื่อนายมีวิธีของนาย ฉันเองก็มีวิธีของฉัน เพราะงั้นถ้าไม่ติดต่อตำรวจให้ก็อย่ามาคิดแทนกัน”

“เมื่อไหร่จะเลิกดื้อซะที ชักจะหมดความอดทนกับเธอแล้วนะ”

“ดี” เธอหมายความตามนั้นจริง ๆ “ฉันไม่ได้ขอให้นายมาอดทนหรือมาห่วงใยฉัน ฉันชัดเจนว่าต่างคนต่างอยู่มาตลอดมีแต่นายที่ดื้อด้านอยู่ได้ เพราะงั้นเลิกยุ่งกับฉันซะ”

อีกอย่างเธอก็ไม่ได้โง่พอที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยง ด้วยชีวิตเธอยังมีคนข้างหลังให้ต้องห่วง ซึ่งมีคนพร้อมทำแทนอยู่แล้ว แผนนี้พวกเธอคิดกันมาเป็นปี ๆ ใช่จะเพิ่งนึกออกวันนี้หรือเมื่อวาน รอแค่หลักฐานมัดตัวพวกเขาก็เท่านั้น

“ก็ได้”

“ก็ได้เหรอ” เพื่อความแน่ใจไม่ใช่คิดไปเองเธอเลยต้องทวนซ้ำ “ก็ได้ที่หมายถึงนายจะติดต่อตำรวจให้ใช่ไหม”

“เปล่า แต่ก็ได้ก็คือก็ได้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตราย”

องศาบอกหน้าตาย แล้วเดินตรงไปที่ตู้เย็น เห็นเธอบอกว่าในห้องเธอก็มีเจลเย็นเขาจะได้เอามาประคบให้ แต่ร่างบางกลับรีบวิ่งเข้ามาขวางเอาไว้ทันที

“นายจะทำอะไรกับตู้เย็นฉัน”

คนตัวโตนิ่วหน้า ทำไมเธอดูลนลานแปลก ๆ

“ก็จะเอาเจลเย็น ทำไม? หรือเธอเอาตับใครแช่ไว้ในนี้”

มันใช่ตับใช่ไตเสียที่ไหน แต่เป็นน้ำนมที่ปั๊มเอาไว้ให้น้องนาทีต่างหาก

“จะบ้าเหรอ ไม่มีไรทั้งนั้นแหละ ไป ๆ จะไปทำอะไรก็ไป”

องศาจ้องตาอดีตภรรยาอย่างมีเลศนัย สองเท้าก็ก้าวเข้าไปชิดเจ้าหล่อน

เซลีนหลบสายตานั่นทำให้องศาจับพิรุธได้ ขณะที่หัวใจสาวเต้นตึกตักเพราะถอยไปก็ชนกับตู้เย็น พอจะหนีเขาก็รวบเอวเธอไปกอดไว้

“โอ๊ะ ๆ หมอเซลจะล้มเหรอครับ” คนเจ้าเล่ห์ขยิบตาให้ “แหม่... ผมช่วยไว้แบบนี้จะมาว่าผมคุกคามทางเพศไม่ได้นะครับ”

“นายจะทำบ้าอะไรฮะ? นี่มันที่ทำงานนะ”

“จะทำอะไรดีนะ ที่จะสั่งสอนเด็กดื้ออย่างเธอได้”

“อย่ามาใช้ลูกไม้สกปรกบีบบังคับฉัน บอกแล้วว่ามันไม่ได้ผล”

องศาแกล้งหัวเราะ

“ไม่ได้จะบังคับ แต่อยากทำเฉย ๆ นี่แหละ จะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ช่าง...”

ไอ้คนกวนประสาทโน้มใบหน้าไปใกล้ใบหน้าสวยของคนที่เขารัดเอาไว้แน่น เซลีนเบี่ยงตัวหลบสุดกำลัง ขณะที่องศากระซิบข้างใบหูว่า

“รู้แต่ว่าฟิน”

“ฉันไม่เคยฟินกับสิ่งที่นายทำแม้แต่ครั้งเดียว”

เซลีนกัดฟัน องศาย้ำให้เธอนึกถึงคืนนั้นที่เขาเอาเปรียบกันอย่างน่าไม่อายจนอยากร้องไห้ คนอย่างเขามันเก่งอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ ส่วนเธอก็น่าเสียดายที่เกิดมาเป็นเพศที่เขามองว่าอ่อนแอเลยจ้องจะรังแกมากกว่าจะให้เกียรติกัน

องศาเผลอกลั้นหายใจ ขณะมองใบหน้าซีกข้างของอดีตภรรยาด้วยแววตาอ่อนโยน คิดถึงผิวแก้มเนียนนุ่มที่เคยหอมอยู่ทุกวัน เขาเคยโหยหากลิ่นหอมหวานของเธอจนหัวใจปวดร้าวและต้องนอนกอดตัวเองอย่างเดียวดาย

ครั้งนี้โชคชะตาเห็นใจเหวี่ยงเขากับเธอมาเจอกัน หากองศาก็ทำได้แค่เฝ้ามองและหวังได้แค่เพียงความเป็นเพื่อนจากแม่นนางฟ้าปีกบาง

ถึงอยากฝังจมูกลงไปบนแก้มสวย ๆ นั่นแค่ไหน ก็ได้แค่หัวเราะกลบเกลื่อนความน้อยใจแล้วปล่อยเธอเป็นอิสระ ไม่อยากให้เธอเกลียดเขามากกว่านี้

เซลีนรีบขยับให้ห่างคนมือไวพลางจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ทว่าตอนนั้นเองที่เธอมีแขก

“ขอโทษครับ ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับพี่เซล”

หมอแวนมองอาจารย์แพทย์ทั้งสองสลับกันไปมา ดูจากสีหน้าแบบนั้นคงมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น

“ไม่หรอก หมอองศาเขากำลังจะกลับห้องเขา แวนมาก็ดีแล้ว”

เธอรีบดันหลังองศาไปที่ประตู ในจังหวะที่ผลักเขาออกประตูก็ดึงแขนเรสซิเดนท์หนุ่มหล่อหน้ามนเข้าไป ในมือฝ่ายนั้นถือเจลเย็นเข้ามาด้วย แถมแววตาที่มันมองเซลีนทำให้องศาขัดหูขัดตาเหลือเกิน

“ได้ข่าวว่าพี่เจอฤทธิ์ Vvip ผมเลยเอานี่มาให้”

“หูย ขอบใจมากจ้ะ พี่กำลังอยากได้อยู่พอดี”

เซลีนยิ้มหวานแล้วกุมมือแพทย์รุ่นน้องอย่างซาบซึ้งใจ แต่องศากลับเบ้ปากเพราะหมั่นไส้ ไหนบอกในตู้เย็นตัวเองก็มี พูดแบบนี้มันอ่อยเด็กชัด ๆ ทว่าเขาต้องรีบปรับสีหน้าทันทีที่เจ้าหล่อนเหลือบตามองมา

“เปล่านะ ไม่ได้ว่าอะไร”

เขากอดอกแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เซลีนจ้องเขานิ่งแล้วเดินมาปิดประตูใส่หน้าเขาดังปัง แถมยังปิดม่านตรงกระจกไม่ให้เขามองเห็นข้างในอีกด้วย

บ้าจริง!

สองคนนั้นทำอะไรอยู่นะ

เขาเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องทำงานเธออยู่นานสองนานแต่หมอแวนก็ไม่ออกมาเสียที กระทั่งมีพยาบาลตามให้ไปดูคนไข้ล้มหัวฟาดพื้น องศาเลยจำใจกลับไปทำหน้าที่หมอ ทิ้งหน้าที่ผัวเอาไว้ก่อน

+ + +

หมอเบญคือหนึ่งในขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์ที่องศาตามอยู่และเพิ่งรู้ว่าเซลีนเองก็ได้กลิ่นตุ ๆ ของเรื่องนี้มานานแล้วเหมือนกัน แต่เพราะหล่อนทำพลาดเองอย่างที่เพนนีพูด ถึงได้ถูกเบื้องบนบีบบังคับให้สละตำแหน่ง แต่ยังสามารถทำงานในโรงพยาบาลได้ ถ้าหากคณะกรรมการไม่ได้หลักฐานว่าหล่อนฉ้อโกงเรื่องจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่เซลีนให้หมอไอซ์ออกหน้าให้เสียก่อนนะ

การจัดการหล่อนด้วยวิธีนี้ดีกว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นจนพวกหล่อนรู้ว่าเรื่องเลวร้ายที่พวกหล่อนทำกำลังถูกจับตามอง

อีกอย่าง... เมื่อโดนตัดขาไปหนึ่งข้างแล้ว รับรองว่าตัวการที่คอยชักใยอยู่ในมุมมืดก็ต้องโดดมาตะครุบตำแหน่งที่จะสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเองได้เอาไว้

แล้วคนคนนั้นก็เล่นเอาเซลีนแทบไม่เชื่อสายตา เพราะเป็นถึงรองประธานโรงพยาบาลที่ลงมาควบตำแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมโดยไม่ผ่านการโหวตนั่นเอง

“เป็นอย่างที่เราคิดเลยแวน น้องทำดีมาก แล้วบอกน้องไอซ์ด้วยว่าให้จัดเต็มกับพี่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”

หมอไอซ์ก็เป็นอีกคนที่ร่วมมือกับเธอ แต่ต้องสวมบทบาทคู่อริเพื่อสับขาหลอกให้สับสนจะได้ไม่ถูกสงสัย หรือถ้าจะโดนกำจัดก็ให้โดนทีละคนดีกว่าโดนทีเดียวทั้งกลุ่ม ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ทำมาทั้งหมดคงพังไม่เป็นท่า

“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”

องศาถือถาดอาหารเข้ามาแล้ววิสาสะนั่งข้าง ๆ เซลีนทันที แถมหน้ายิ้ม ๆ แบบนั้นมันช่างกวนประสาทจนอยากถีบแม่งตกเก้าอี้ ส่วนแวนก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“พี่เซล ลองทานนี่หน่อยไหมครับ ไข่เจียวราดซอสหมาล่า พี่น่าจะชอบเพราะมันเผ็ดมาก”

“ขอบใจจ้ะ”

เซลีนกำลังจะยกจานรับอาหารจากน้อง แต่องศาก็หน้าด้านเอาจานตัวเองไปรับตัดหน้าเธอ ทั้งที่ไม่ใช่ของตัว

“ขอบคุณครับหมอแวน หมาล่าเนี่ยของโปรดผมเลยครับ เผ็ด ๆ แซ่บ ๆ ยั่ว ๆ บด ๆ”

เขาเน้นท้ายประโยคพลางปรายตามองเธอ แล้วจิ้มชิ้นไข่เจียวขึ้นมางับ เหมือนมีความแค้นส่วนตัวกับมันมาแต่ชาติปางก่อน

ประสาทแดกฉิบหาย...

เซลีนถอนหายใจแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว พวกที่ชอบเรียกร้องความสนใจต้องโดนเมินถึงจะเลิกงอแง

“งั้น พี่เซล ผมฝากนี่ให้น้องนาทีหน่อยครับ”

หมอแวนดึงโมบายของเล่นออกมาจากถุงกระดาษที่เซลีนเห็นเขาถือมาตั้งแต่แรก ทว่าช้อนในมือเซลีนถึงกับร่วงลงจานเมื่อจู่ ๆ แวนก็พูดเรื่องลูกชายเธอต่อหน้าองศา

คนที่รู้ว่าเธอมีลูกยังไม่รู้ว่าองศาคือพ่อของเด็ก!

“น้องนาทีนี่ใครเหรอครับ” องศาถามอย่างอยากรู้

“ก็ลูก---”

“ลูกเพื่อนบ้านฉันน่ะ”

เซลีนโพล่งขึ้นมาก่อนที่แวนจะทันได้บอกอะไร ฝ่ายนั้นมองหน้าเธองง ๆ หากก็คิดว่าอาจารย์สาวคงมีเหตุผลที่ปิดบังเรื่องน้องนาทีกับองศา

“คงจะน่ารักน่าดู หมอเซลกับหมอแวนถึงได้เอ็นดูขนาดนี้”

ยิ่งกว่าน่ารักเสียอีก ดวงตาใส่แป๋ว แก้มตุ้ย ๆ แถมเนื้อนุ่มน่าฟัด ที่สำคัญหน้าตาเหมือนพ่อมากยิ่งกว่ารูปหล่อ แค่คิดถึงเซลีนก็อยากกลับบ้านไปป้อนนม คิดแล้วน้ำนมเธอก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก

“ไว้วันหลังถ้าผมไปบ้านหมอเซลีน คงต้องพาผมไปเจอแกบ้างแล้วแหละ”

“ใครจะให้นายไป” เซลีนโพล่งถามท่าทางไม่พอใจ

“ทำไมเหรอ” เขาเลิกคิ้วพลางยิ้มยียวน “ที่บ้านซ่อนไรไว้”

“บ้านคือพื้นที่ส่วนตัว นายอย่ามาล้ำเส้นหน่อยเลย อยู่ในที่ของนายไปไม่ต้องเสนอหน้าหรือเสนอตัวอะไรทั้งนั้น”

“อยากเสนอตัวใจแทบขาดเลยครับ”

ไอ้จอมกวนเท้าแขนกับโต๊ะพร้อมเอาศีรษะวางมือข้างนั้นไว้ สายตามากปรารถนาจับจ้องคุณหมอแสนสวยไม่วางตา พลางเลียส้อมอย่างยั่วยวน

จีบหญิงซึ่ง ๆ หน้าให้เด็กมันดูเสียหน่อยเป็นไร

“เอาไหมครับ”

“แวน พี่ว่าพี่ไปนั่งตรงโน้นดีกว่า รำคาญ!”

เซลีนลุกพรวดขึ้น แวนพยักหน้าหงึก ๆ อย่างงุนงง เซลีนบอกว่าไม่เคยรู้จักองศามาก่อนแต่ดูจากบทสนทนาวันนี้เหมือนเธอกับเขาเคยสนิทกันมาแต่น่าจะมีเรื่องบาดหมางกันมามากกว่า

“หมอแวนอนุญาต แต่ผมไม่อนุญาตครับ” องศาจับมือเธอที่จับถาดอาหารเอาไว้ “นั่งกับผมก่อนจะเป็นไรไป หรือกลัวใจแพ้ความหล่อของผมครับ”

แต่ตอนนั้นเอง...

“หมอองศา มานั่งตรงนี้นี่เอง ไอซ์ซื้อสมูทตี้มาให้ค่ะ”

หมอไอซ์ที่ดูเชิงอยู่นานแล้วได้จังหวะเข้ามาพอดี เซลีนบอกให้จัดเต็มได้ไม่ต้องเกรงใจนี่นา ดังนั้นเจ้าหล่อนเลยเบียดตัวเข้ามาแล้วใช้ข้างสะโพกกระแทกเซลีนออกไปแรง ๆ

“พี่เซลอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้วค่ะ จะได้พูดทีเดียว” หมอไอซ์จ้องหน้าเซลีนตาขวาง หากแต่มุมปากยกยิ้ม “ไอซ์ขอประกาศให้ทุกคนรู้ตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ ว่าไอซ์จะจีบหมอองศา”

อะไรอีกล่ะเนี่ย...

ผู้หญิงเปิดศึกแย่งเขาอีกแล้วทั้งที่เขาอยู่เฉย ๆ แท้ ๆ ถึงจะภูมิอกภูมิใจในเสน่ห์ตัวเองแต่เกรงใจเซลีนมากกว่า

“คุณไอซ์ครับ แบบนี้ไม่ดีมั้งครับ”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นค่ะหมอองศา” ไอซ์หันมาทำมือปราม แล้วประกาศต่อ “ไอซ์ไม่ได้บอกว่าคนอื่นจีบไม่ได้นะ แต่ถ้าจะแข่งกับไอซ์ก็คิดดี ๆ หน่อย เพราะฉายานังตัวแสบ ไม่ใช่สิ่งที่ไอซ์ได้มาเพราะโชคช่วย”

พูดจบหมอไอซ์ก็นั่งเบียดองศาพลางซบหน้ากับไหล่เขาอย่างออดอ้อน เสียงโห่ร้องให้กำลังใจดังเกรียวกราวในโรงอาหารทำให้รู้ว่าหมอไอซ์ค่อนข้างที่จะ popular ในโรงพยาบาลนี้ไม่น้อย

องศาเหลือบตามองเซลีนพร้อมยิ้มเจื่อน ๆ เห็นแววตาเรียบนิ่งของอดีตภรรยาแล้วเสียวสันหลังวาบ

“พี่เซลก็จำเอาไว้นะคะ ถ้าทนไม่ไหวก็คว้าใครสักคนแก้ขัดซะ แต่อย่ามายุ่งกับของของไอซ์”

ยัยเด็กนี่! จ้างร้อยเล่นล้านแถมอินเนอร์จัดเต็มทุกครั้งเลยสิน่า ถ้าไม่รู้ก่อนว่าเป็นการแสดงคงมีด่าแหลกกันไปข้าง

เซลีนเดินไปนั่งโต๊ะอื่นโดยมีแวนตามไปด้วย ส่วนธารีที่เพิ่งตามเข้ามาสมทบและไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของเซลีนกับไอซ์เพราะคนเป็นพี่กันหล่อนออกจากความเสี่ยงนี้ก็ชอบใจใหญ่

“เหมาะสมกันมากเลยอะพี่ ผีเน่ากับโลงผุ”

เซลีนเหลือบมองแวนแล้วพากันกลั้นขำ สงสารไอซ์ที่เคมีดันเข้ากันดีกับคนแบบนั้น ด้านองศาพยายามแกะมือหมอไอซ์ออกแต่ก็ไม่เป็นผล

นี่คนหรือปลิงกันแน่วะ!

ปกติหลังเลิกงานเซลีนจะรีบกลับบ้านทันที แต่วันนี้องศาเห็นว่าเมื่อชั่วโมงก่อนหลังเธอช่วยชีวิตคนไข้ไว้ไม่ได้ก็หายเข้าไปในห้องทำงานแถมปิดม่านเสียหมด จนคนอื่น ๆ ทยอยกลับก็ยังไม่ออกมา ด้วยความห่วงใยจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปหา

เขาพบว่าแม่นางฟ้าปีกบางนั่งหลับซุกมุมโซฟาน่าเอ็นดู เซลีนดูไร้พิษสงเหมือนตุ๊กตา แต่อย่าให้ได้ตื่นหรือมีใครไปปลุกสัญชาตญาณนางมารร้ายเข้าก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นคงได้ร้อน ๆ หนาว ๆ

องศาเดินสำรวจรอบห้องเพราะที่เข้ามาครั้งก่อนไม่ทันดูละเอียด แล้วก็ไปหยุดหน้าตู้เย็นที่เธอหวงนัก ตอนนี้เธอหลับอยู่จึงเป็นโอกาสดีที่เขาจะเปิดดู

“ไม่เห็นมีอะไรน่าซ่อนเลยนี่หว่า”

มีแต่เค้กที่ถูกตัดกินไปนิดหน่อย มะละกอในพลาสติกแรป กับนมจืดที่มีหลอดปักคาอยู่ในกล่อง องศาเลยหยิบขึ้นมาดูดแล้วทำหน้าเคลิ้มฝัน

กินนมจากหลอดเดียวกันมันก็เหมือนจูบกันทางอ้อม แต่ว่านะ... เขาต้องรีบไปบ้วนทิ้งเพราะเป็นนมบูด

หมดกันจูบทางอ้อมของเขา!

หลังเอานมไปทิ้งขยะเขาก็เดินเข้าไปจ้องหน้าเธอใกล้ ๆ ทว่าใบหน้างดงามนั้นเปื้อนคราบน้ำตา

เธอคงร้องไห้แล้วก็เผลอหลับไปสินะ...

เขาเข้าใจความเจ็บปวดนี้ดี อาจารย์อย่างพวกเขามักสอนน้อง ๆ เสมอว่าอาชีพนี้สักวันเราจะทำคนตาย และถ้าหัวใจของใครจะหยุดเต้นในตอนที่เราพยายามช่วยเขาอย่างสุดความสามารถ ก็จงอย่าหมดความเชื่อมั่นในตัวเอง

แต่ในบางครั้ง... อาจารย์อย่างพวกเขาก็ทำเป็นเข้มแข็งและแบกรับความรู้สึกนั้นไม่ไหว โดยเฉพาะถ้าเป็นคนไข้ที่เราเผลอเอาความรู้สึกไปผูกกับเขาด้วยแล้ว

คนตัวโตนั่งชันเข่ากับพื้นแล้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าเนียนสวยออกเบา ๆ

เซลีนทำถูกแล้วที่ร้องไห้เสียบ้าง คนเราไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลา แต่ในยามที่เธออ่อนแอขอให้เขาได้อยู่เคียงข้างแม้จะแค่ตอนเธอหลับก็ตาม

ด้านเซลีนที่ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไหร่ก็สะดุ้งตื่นพร้อมรู้สึกเหมือนคนจมน้ำ ด้วยร่างกายส่งสัญญาณเตือนแล้วว่ากำลังเหนื่อยเกินไป แต่ใจนึกถึงแต่ลูก มองเวลาก็เกือบหกโมงแล้ว

แต่ไอ้นี่มาได้ยังไงก่อน...

“องศา ตื่น”

คนที่นั่งหลับอยู่บนพื้นพรมแถมจับมือเธอไว้งัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วส่งยิ้มให้เธอ

“ที่รักตื่นแล้วเหรอ”

“เออ กลับละนะ”

ไม่มีเวลาจะมาถามว่าเขามาอยู่ในนี้ได้ยังไงเพราะป่านนี้ลูกคงรอเธอแย่แล้ว ความรีบร้อนแบบนั้นทำเอาองศางง เธอทำเหมือนบ้านจะหนีเธอไปไหนอย่างไรอย่างนั้น

“ให้ฉันขับไปส่งนะ ทิ้งรถเธอไว้ที่นี่แหละ”

“ไม่ต้องหรอก”

เธอสะพายสัมภาระขึ้นบ่าแล้วเปิดประตูออกจากห้องไป แต่องศายังเดินตาม เพราะอันที่จริงเขามีเรื่องต้องคุยกับเธอ

“ฉันมีข้อเสนอให้เธอนะเซล”

“เอาไว้คุยพรุ่งนี้”

“แต่ฉันทบทวนที่เธอพูดแล้วนะ เรื่องบอกคนของฉัน”

“จริงเหรอ” สิ่งนี้น่าสนใจเกินกว่าที่เธอจะปล่อยผ่าน

“มานึกดูแล้ว สิ่งที่เธอทำกับหมอเบญก็เพื่อเปิดตัวลาสต์บอสที่เราต่างก็ไม่เคยรู้ว่าเป็นใคร มันทำให้ทางฉันทำงานง่ายขึ้นเยอะ ส่วนเรื่องเธอกับหมอไอซ์ ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เลวเลยนะ”

“โห้ สุดยอด” เซลีนอดที่จะปรบมือให้เขาไม่ได้ “เรียนรู้จากฉันไปเยอะนี่นา ในที่สุดนายก็อ่านเกมฉันออก”

“แหง” เขายักไหล่ “ก็ได้ครูดี”

“แต่ก็น่ากลัวว่ะ ถ้าคนโง่อย่างนายอ่านฉันออก พวกนั้นไม่น่าจะเหลือ”

“ไม่หรอก... เขาไม่ได้ใกล้ชิดเธออย่างฉันนี่ แต่เธอบอกหมอไอซ์ลด acting หน่อยก็ดี”

“มันไม่ใช่ acting แต่นางอยากได้นายจริง ๆ”

“แล้วเธอจะยอมเหรอ?”

“ฉันจะแถมเงินให้น้องมันล้านนึงเลยแหละ”

องศาขำ ถึงเซลีนจะใจร้าย แต่ดูจริตจะก้านของเธอมันช่างโคตรน่ารักจนเขาอยากกระชากเข้ามาฟัดเสียให้หายคิดถึง

“กลับมาเรื่องนั้นก่อน ฉันจะทำตามที่เธอบอก แต่ว่าทุกวันเธอต้องให้ฉันไปรับไปส่ง ต้องรับปากกับฉันว่าจะไม่เดินทางคนเดียวเพราะฉันกลัวเธอจะเป็นอะไรไป”

“ฉันไม่รับ” รับก็บ้า เพราะเมื่อไหร่ที่องศารู้ที่อยู่ของเธอ เขาก็จะรู้ความลับเรื่องน้องนาที

“อย่าดื้อได้ไหม”

“นี่” เธอยกนิ้วชี้ขึ้นมาพลางจ้องหน้าคนที่ไม่มีสิทธิ์งอแง “อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็ก ๆ ฉันก็อายุเท่านาย แล้วการที่ฉันเป็นผู้หญิง ไม่ได้แปลว่าฉันจะดูแลตัวเองไม่ได้ อย่ามาเหยียดเพศ เข้าใจ?”

“เออ ก็ได้”

องศายอมจำนนเพราะจนปัญญาจะโน้มน้าว แต่เมื่อเป็นอย่างนี้เขาก็ยิ่งแน่ใจว่าเธอมีบางอย่างปิดบังเขาอยู่ เลยสวมวิญญาณนักสะกดรอยขับรถตามหลังเธอไปห่าง ๆ แต่มาถึงซอยหนึ่งก็คลาดสายตากับเธอเสียแล้ว

“หายไปไหน เมื่อกี้เห็นตูดอยู่แท้ ๆ”

เขามองซ้ายขวาหน้าหลังไม่เห็นรถเธอครั้งนี้เลยถอดใจแล้วเลี้ยวกลับไป

เซลีนที่แวบเข้าไปจอดหลังกระบะโฟร์วีลที่จอดข้างซอยแคบ ๆ จึงได้ขับออกมาเสียที เธอรู้ว่าเขาตามมาตั้งแต่พ้นแยกหน้าโรงพยาบาลแล้ว พอได้จังหวะจึงสลัดเขาจนหลุด

ครั้งนี้เธอทำได้ แต่ครั้งต่อไปจะกะได้เหมาะเจาะอีกหรือเปล่า จะหวังพึ่งให้ธารีช่วยก็ไม่ได้เพราะฝ่ายนั้นเดินทางไปสัมมนาที่ญี่ปุ่นแทนอาจารย์ของหล่อนได้สองอาทิตย์แล้ว

เธอคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อป้องกันอีกขั้น...

เพราะองศาเริ่มสงสัย เซลีนเลยเอานมที่ปั๊มไว้ไปฝากในตู้เย็นของแผนกเด็กอ่อน และคงให้เกมเพลย์มาเอานมในที่เธอปั๊มไว้ถึงในโรงพยาบาลไม่ได้อีกแล้ว เที่ยงนี้จึงนัดเด็กชายที่ร้านสะดวกซื้อข้าง ๆ แทน

“วันนี้หมอกลับช้าหน่อยนะคะ ฝากบอกป้าไก่ด้วย ส่วนนี่เงินค่าขนมเกมเพลย์จ้ะ”

หลังจากเด็กชายรับกล่องเก็บอุณหภูมิที่บรรจุนมแม่หลายถุงเธอก็ยื่นธนบัตรหนึ่งร้อยบาทให้หนึ่งใบ

“ขอบคุณครับคุณหมอ”

เธอแยกกับเกมเพลย์และมั่นใจว่าองศาไม่ได้ตามมาก็รีบเดินเลาะรั้วไปเข้าประตูเล็ก ๆ ซึ่งทะลุทางเดินเข้าตึกอายุรกรรม

ด้านเกมเพลย์ดีใจที่ได้ค่าขนม จึงคิดจะเดินข้ามถนนไปซื้อสายไหมที่แม่ชอบ แต่ไม่ดูทางจึงถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน เขาล้มลงกลางถนนซึ่งรถเก๋งคันหรูก็พุ่งตรงมาพอดี

เด็กชายที่ชูกล่องนมไว้เหนือศีรษะหลับตาปี๋

ตายแน่...

นั่นคือความคิดสุดท้ายของเกมเพลย์ แต่เขากลับไม่ตายเพราะรถคันนั้นเบรกทัน

“เป็นอะไรไหมหนู”

องศาลงจากรถมาดูเด็กชาย โชคดีเขาขับไม่เร็วมาก มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็น่าจะขับช้าหน่อย ปิดเทอมแบบนี้ ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาโรงพยาบาลเยอะขึ้นก็น่าจะรู้

“ไม่เป็นไรครับ”

เกมเพลย์ตอบแต่กำลังตรวจสอบความเสียหายของกล่องนมที่ตนรักษายิ่งชีพ เพราะนมน้องนาทีเหลือเพียงถุงเดียวที่บ้าน ตนต้องทำทุกทางเพื่อให้น้องได้กินนมตรงเวลา

“อ้าวหนู”

องศาจำเด็กคนนี้ได้ เกมเพลย์เงยหน้ามองคุณอาย้อนแสงแดดที่ลงหัว พลางส่งมือให้ผู้ใหญ่ฉุดลุกขึ้น เขาจำคุณอาคนนี้ได้เหมือนกัน

“คุณอาที่ซื้อกระทงนี่เอง ขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ทันระวังเลยเกือบทำคุณอาซวยไปด้วยเลย”

“ไปทำแผลกันก่อนเถอะ เข่ากับศอกถลอกหมดแล้ว โรง’บาลอยู่แค่นี้เอง เดี๋ยวอาทำให้ อาเป็นหมอ”

“ขอบคุณครับ”

องศาพาเด็กชายไปทำแผลในแผนกฉุกเฉิน ออกค่ารักษาให้เสร็จสรรพ แล้วอาสาพาไปส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทางเขาก็อดถามไม่ได้ว่ากล่องเก็บอุณหภูมิที่ดูหวงนักคืออะไร

“นมของลูกเจ้านายแม่น่ะครับ คุณหมอเขานัดให้ผมมาเอาที่นี่ครับ”

“คุณหมอเขาทำงานที่เดียวกับหมอเหรอครับเนี่ย”

“ครับผม เธอสวยมากและใจดีมากเลยครับ”

“เหรอครับ แล้วรู้ไหมเขาเป็นหมออะไร”

“น่าจะหมอผ่าตัดนะครับ”

“แผนกเดียวกับหมอเลย” บังเอิญจริง ๆ

แต่คนที่สวยและใจดีในแผนกเขามีใครบ้างนะ หนึ่งในนั้นไม่ใช่เซลีนแน่ ๆ เพราะสวยแต่ใจร้ายฉิบหาย

“แล้วเขาทำงานเป็นหมอทั้งสามีภรรยาเลยเหรอครับ”

องศาถามเพลินไปหน่อยเพราะชินที่เพื่อนร่วมงานมักจะลงเอยด้วยกันจนคิดว่าอาชีพนี้น่าจะไม่มีแฟนเป็นคนอาชีพอื่นแล้ว

“ไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมก็ไม่เคยเห็นสามีคุณหมอเหมือนกัน”

“อ้าว”

“แต่แม่เล่าว่าเลิกกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะคุณหมอดูเศร้าทุกครั้งที่พูดถึงคุณพ่อน้องน่ะครับ เห็นว่ารู้ว่ามีน้องตอนหย่าแล้วด้วยครับ”

คุณหมอของเกมเพลย์ก็น่าเห็นใจที่ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทว่าชีวิตคู่นั้นซับซ้อนเกินไป มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ก็น่าเสียดายแทนผู้ชายคนนั้นที่ไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อของเด็กน้อย

“ดูหนูจะรักน้องมากเลยนะ เวลาพูดถึงน้องดูมีความสุขเชียว”

“น้องน่ารัก คุณหมอใจดี ให้ที่อยู่ให้งานแม่ผมทำ ผมก็เลยรักน้องเหมือนเป็นน้องชายผมเองเลยครับ”

องศานึกถึงทฤษฎีแรงดึงดูดที่ว่าคนประเภทเดียวกันมักจะดึงดูดซึ่งกันและกัน เกมเพลย์โชคดีที่ได้เจ้านายดี เจ้านายก็โชคดีเหมือนกันที่ได้อุปการะเขา

“ถึงแล้วครับ”

เกมเพลย์ชี้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ลึกสุดซอย เด็กชายหอบกล่องบรรจุนมลงไปกดกริ่ง ผู้หญิงที่เขาเดาว่าเป็นแม่เกมเพลย์ออกมาเปิดประตูให้ พลางสำรวจร่างกายลูกชายแล้วก็มองมาที่รถเขา องศาค้อมศีรษะให้แม่เด็ก แล้วฝ่ายนั้นก็เดินเข้ามาเคาะกระจก

“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะที่ช่วยลูกชายพี่”

“ไม่เป็นไรครับ ผมก็เกือบขับชนน้อง ก็ต้องรับผิดชอบด้วยครับ”

“ยังไงก็ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้าเกิดว่ามีอะไรที่พี่พอจะตอบแทนได้ บอกพี่ได้เลยนะคะ”

“ครับ” องศาตอบยิ้ม ๆ แล้วแม่เด็กก็ขอตัวเข้าบ้านไป

องศามองบ้านหลังนั้นให้เต็มตาอีกครั้งด้วยรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกเขาจึงได้เลี้ยวรถกลับไป

+ + +

ถึงจะร่วมมือกันแล้วแต่เซลีนก็ยังไม่เลิกทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ทั้งยังมักจะหายไปตอนพักเที่ยงเสมอ องศาแอบตามไปแต่เซลีนสลัดเขาได้ทุกครั้ง ไหนจะไม่ยอมให้ไปส่งที่บ้านอีกต่างหาก ยิ่งคิดยิ่งสงสัย ยิ่งไม่เข้าใจเขาก็ยิ่งอยากรู้ เลยตัดสินใจทำบางอย่างกับรถของเธอ

“รถเป็นอะไรเหรอครับหมอเซลีน”

คนเจ้าเล่ห์แสร้งเดินเข้าไปถามตอนที่เห็นเธอก้ม ๆ เงย ๆ ข้างรถเก๋งตัวเอง เธอขับออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพักแล้ว แต่เพิ่งรู้สึกว่าเครื่องอืด ๆ ขับมาอีกสักหน่อยเริ่มมั่นใจแล้วว่ายางแบน

“เหมือนยางจะแบนใช่ไหมครับ”

เขาเอามือไขว้หลังแล้วโน้มตัวลงมาถามใกล้ ๆ เซลีนที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เธอคิดว่าต้องมาหาเรื่องกันแน่ ๆ

“อย่าเพิ่งมากวนได้เปล่า คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่”

องศาขำแห้ง

“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ”

เซลีนพรวดลุกขึ้นใบหน้าสวยถมึงทึง เธอรู้ว่าองศาขับรถตามมาตลอดเพราะเป็นแบบนี้ทุกวัน เธออาศัยว่าชินพื้นที่มากกว่าเลยสลัดเขาได้ทุกครั้ง แต่ถ้านานวันเข้าองศาก็จะมีทักษะนั้นเหมือนกัน

“แค่นายอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แล้วย่ะ”

สงสัยว่าหน้าเขาคงจะเขียนคำว่าผู้ร้ายติดเอาไว้ เซลีนเลยมองในแง่ดีไม่ได้ แต่ถึงจะเป็นตัวร้าย ก็เป็นตัวร้ายที่รักเธอ

“อ้า...” องศาอ้าปากให้เธอดูเสียเลย

“ทำไร?”

“เอ้า ก็ให้ดูลิ้นไก่”

“โว้ย! บ้า”

“ถึงจะบ้า แต่ก็บ้ารักเธอนะรู้ยัง”

“นายนี่ก็!”

คนที่หงุดหงิดอยู่ถึงกับหลุดยิ้มกับมุกเกลื่อน ๆ องศายิ้มตามจนตาหยีแล้วก้าวเข้าไปดึงมือเธอเข้ามาคล้องแขน

“เพื่อ?”

“ไปรถฉันกัน”

เซลีนเบิกตาโพลง รีบดันเขาออกไปให้พ้นอย่างไม่ต้องคิด เรื่องอะไรจะไปกับเขา เธอตัดสินใจคว้ากระเป๋าในรถตัวเองแล้วล็อกไว้ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปหน้าปากซอย

จังหวัดนี้กว้างใหญ่แต่หาใช่เมืองที่ไม่หลับใหลอย่างกรุงเทพฯ ถ้าจะโบกแท็กซี่หรือเรียกอูเบอร์ก็ต้องไปปักหมุดที่ที่มองเห็นง่าย ๆ ในซอยไม่ทราบชื่อแบบนี้พวกเขาจะมาไม่ถูก

“นี่ ไปรถฉันก็จบ ฉันแค่เป็นห่วงไม่อยากให้กลับเอง ไม่ได้จะเข้าไปยุ่งอะไรในบ้านเธอเลยนะ”

“แต่ฉันสะดวกแบบนี้ไง”

“เดินระวังหน่อย อย่ามัวแต่พูด” องศาล้วงกระเป๋ากางเกงเดินตามเธออย่างสบายอารมณ์

ทว่าไม่ทันมองทาง ส้นสูงจึงติดฝ่าท่อระบายน้ำเข้า โชคร้ายอีกต่างหากที่เท้าพลิก ทำให้ร่างสวยล้มลงเหมือนต้นไม้ถูกโค่น

“ฮือ... ไอ้ฝาท่อบ้าเอ๊ย”

เพราะวันนี้ต้องหงุดหงิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เซลีนเลยแทบจะเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ เสียงบ่นเลยเหมือนจะร้องไห้

เธอยกศอกขึ้นมาดูพบว่ามีเลือดไหล แถมสายเดี่ยวที่สวมอยู่ก็สายขาดไปข้างหนึ่งด้วย โชคดีที่มือไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ได้

องศายืนขำท้องคัดท้องแข็ง จุดจบสายดื้อมันยิ่งกว่าสาแก่ใจ เซลีนหงุดหงิดแล้วหงุดหงิดอีก ถึงขั้นหยิบเศษหินเล็ก ๆ ปาใส่เขา

“ก็บอกแล้วว่าให้เดินดี ๆ”

เขาเดินเข้าไปพลางถอดเสื้อสูทคลุมไหล่ให้แล้วประคองเธอลุกขึ้น เซลีนร้องขึ้นอีกเพราะเจ็บข้อเท้า องศาย่อกายลงนั่งบนส้นเท้าแล้วจับข้อเท้าของเธอยกขึ้นมาดู

“ขาแพลงน่ะ แต่เส้นเอ็นไม่ได้ฉีกขาด ประคบเสร็จ ทายาแล้วพัก ไม่กี่วันก็หายแล้ว”

“ขอบใจนะ”

“เปลี่ยนจากขอบใจเป็นหอมแก้มแทนได้เปล่า”

คนกวนโอ๊ยเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ เซลีนเกือบหลุดยิ้มอีกรอบถ้าไม่รีบหันหน้าหนีไปเสียก่อน

“ดูเชิดเข้า ถ้าคอหักตายไปจะมีใครมาทำให้ฉันคิดถึงล่ะเนี่ย”

“นี่ ปากเสีย”

แม่นางฟ้าปีกบางหันมาแหวใส่ องศาขำอีก หลอกล่อเซลีนเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าให้กวนประสาทนี่เขาถนัดนัก

“ชิมไหมล่ะ ใส่สารกันบูดเรียบร้อยละนะ”

ดวงตาสีเหล็กคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาในแววตาเซลีนแบบไม่กะพริบ มันอัดแน่นไปด้วยความรัก ความห่วงใยและความปรารถนาจนเซลีนต้องหลบสายตา

องศาที่เป็นแบบนี้ช่างอันตรายเหลือเกิน แต่เธอก็เตือนตัวเองในใจให้อย่าลืมความเจ็บปวดที่เขาเคยทำเอาไว้

“ไม่”

“จริงดิ?”

“จริง!”

เซลีนเชิดมองไปทางอื่นพลางกัดรีมฝีปากเอาไว้ไม่ให้ยิ้ม ปล่อยให้คนตัวใหญ่ค่อย ๆ ถอดรองเท้าให้ทีละข้าง องศายิ้มกรุ่มกริ่ม ใจพองโตเสียยิ่งกว่าลูกโป่งสวรรค์

โบราณว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน หัวใจของคนเราที่โดนจีบทุกวี่ทุกวันมันก็ต้องมีสักวันนั่นแหละที่จะอ่อนให้กันบ้าง

“มา ขี่หลังฉัน”

องศาหันหลังให้แล้วเอี้ยวหน้ามาบอก

เซลีนลังเล

“ไม่ต้องถามว่าเพื่ออะไร เพราะจะพาไปส่งบ้าน หรือเธออยากจะฝืนสังขารเดินไปปากซอยก็ได้นะ อีกเป็นกิโล แถมแต่งตัวแบบนี้ไม่น่าจะรอดไปถึง”

“ก็ได้!”

เซลีนยอมขึ้นขี่หลังเขาอย่างเสียไม่ได้ ชายหนุ่มหิ้วส้นสูงไว้ในมือแล้วกระชับต้นขาของคนที่อยู่บนหลัง แล้วค่อย ๆ เดินไปราวกับไม่อยากให้ถึงรถตัวเอง

“คนน่ารักนี่เขาต้องซุ่มซ่ามแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ” องศาชวนคุย

“ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามซะหน่อย” เธอว่าข้างใบหูเขา “ด้วยอาชีพแล้ว นายก็รู้ว่าพวกเราจะไม่ซุ่มซ่าม แต่นี่มันเป็นอุบัติเหตุ”

“หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเธอกำลังอ่อยฉัน โอ๊ย...” พูดจบองศาก็ต้องร้องลั่น เพราะเซลีนงับใบหูเข้าอย่างจัง

“ใครอ่อยนาย พูดดี ๆ”

“ใครอยากจะรับก็รับไปสิ” เขาทำกวนอีก แต่เธอทำท่าจะกัดอีก องศาเลยแกล้งปล่อยเธอลงข้างหนึ่ง หญิงสาวร้องกรี๊ดพลางไต่ขึ้นมากอดคอเขาแน่น

“กัดอีกเดี๋ยวพ่อทุ่มลงพื้นซะเลยนี่”

“อย่านะเว้ย! นายบังคับให้ฉันขี่หลังเองนะ นายต้องรับผิดชอบ”

“อยากรับผิดชอบไปทั้งชีวิตเลย ถ้าอนุญาตอะนะ”

“ฝันไปเถอะ”

องศาหัวเราะชอบใจ เขารู้ว่ามันอาจไม่มีวันเกิดขึ้น แต่เขาก็มีความสุขที่ได้พยายาม อย่างน้อยก็คงไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง

“นึกถึงตอนเป็นเด็กเนอะ ว่าไหม” องศาอดนึกถึงเหตุการณ์สมัยยังเด็กไม่ได้เลย

“ตอนไหนก่อน มันนานเกิน ฉันจำไม่ได้”

ทุกวันหยุดแม่จะพาเขาไปเฝ้าพ่อที่เป็นทันตแพทย์ในโรงพยาบาล ส่วนเซลีนก็จะตามคุณศราไปเช่นกัน เขากับเธอเลยได้เล่นด้วยกันบ่อย ๆ แล้วเซลีนก็มักจะขอขี่หลังเขาเป็นประจำ แต่ความรู้สึกมันต่างกัน นอกจากความรักในใจเขาที่เพิ่มมาแล้ว ขนาดอะไรต่อมิอะไรของเธอก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน

ใจฝ่ายโรแมนติกเขาก็อยากคิดดีอยู่หรอก แต่ใจฝ่ายลามกดันไม่หยุดคิดเรื่องหน้าอกหน้าใจกับ ‘ส่วนนั้น’ ของเซลีนที่ทาบอยู่บนหลังเขาได้เลย

“ทำไมขนลุกอะองศา” เซลีนอดถามไม่ได้เพราะซอกคอเขากำลังขึ้นเป็นตุ่ม ๆ ทั้งที่อากาศไม่ได้หนาวขนาดนั้น ท่าทางในหัวคงไม่ได้คิดเรื่องดีเป็นแน่ “คิดลามกอยู่เหรอ”

“เปล๊า...”

ทำเสียงสูงอีกต่างหาก ใช่เลยทีนี้

“ปล่อยฉันเลย ฉันจะเดินเอง”

“เรื่องไรจะปล่อย”

องศากระชับร่างเธออีกนิด พอหญิงสาวดิ้นหนักเข้า เขาก็แกล้งจะปล่อยเธอตกจนเซลีนต้องกอดคอเขาแน่น มันยิ่งทำให้อะไรต่อมิอะไรบดเบียดแผ่นหลังเขาเข้ามาอีก

คิดอย่างคนบาปเลยแล้วกัน เขาอยากเปลี่ยนจากท่านี้เป็นท่าหันหน้าเข้าหาเธอ แล้วเสกให้ตรงนี้เป็นห้องนอนของสองเราเหลือเกิน

ในที่สุดองศาก็ได้มาส่งเซลีนถึงหน้าบ้านเสียที บ้านที่เธออยู่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์คันทรีสีขาวน่ารัก มีขนาดกะทัดรัดและอยู่หน้าปากซอยใกล้ตลาดกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

“แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้ฉันแบกเข้าบ้าน”

“ฉันเดินเองได้น่า แค่นี้เอง”

“งั้นพรุ่งนี้มารับนะ”

“ไม่ต้อง” เธอที่กำลังจะไขประตูรั้วหันมาบอกตาเขียว องศาก็ไม่อยากฝืนใจ เพราะแค่ได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนก็พอแล้วสำหรับตอนนี้

“กลับก่อนนะครับ ที่รัก”

องศากลับเข้าไปในรถ รอจนเซลีนเข้าไปด้านในแล้วล็อกประตูรั้วนั่นแหละเขาถึงได้กลับไป ด้านหญิงสาวก็เข้าไปตรวจอาการคุณยายเจ้าของบ้านเพราะท่านเป็นเคสที่เธอต้องเก็บ แต่ดันมาเสียค่ำเพราะรถเสีย

“อาการโดยทั่วไปปกติแล้วนะคะ หลังจากนี้ถ้าทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอก็จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ”

“เห็นไหมตา ยายบอกแล้วว่ายังไงต้องหาย” หญิงชราหันไปพูดกับสามีด้วยความดีใจ มากกว่าการรักษาที่จะช่วยให้หายขาด สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือกำลังใจนี่แหละ

“หมอกลับก่อนนะคะ คิดถึงลูกชายแล้วน่ะค่ะ แล้วก็ขอบคุณมากนะคะที่ให้หมอยืมบ้าน”

“ไม่เป็นไรหมอ ตั้งแต่ที่หมอเล่าให้ยายฟังว่าผัวเก่าหมอมันตามหมอไม่เลิก ยายก็อยากช่วย”

เซลีนอดขำกับคุณยายไม่ได้เลย เพราะท่านอินกับเรื่องราวของเธอเหลือเกินตอนที่ได้ฟัง ด้วยความบังเอิญ ท่านเป็นเพื่อนเก่าของยายเธอถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอตั้งแต่แรกเห็น เพราะมีส่วนละม้ายคล้ายเพื่อนของตนอย่างมาก

ก่อนกลับท่านเอารองเท้าแตะออกมาให้เธอสวมเพราะเห็นว่าส้นสูงของเธอหัก แล้วก็เอาถุงมือถุงเท้าที่ถักให้น้องนาทีออกมาให้ มันสวยงามและประณีตจนเธอไม่รู้จะใช้ลงหรือเปล่าด้วยซ้ำ

จากนั้นหญิงสาวก็เรียกอูเบอร์ให้มารับที่หน้าบ้านแล้วกลับบ้านตัวเอง พอไปถึงพบว่าพี่ไก่กับเกมเพลย์อาบน้ำสระผมให้น้องนาที ให้ทานนมแล้วก็พาไปนอนในเปลเรียบร้อยแล้ว

ทันทีที่เธอเยี่ยมหน้าเข้าไปในแปล ลูกน้อยที่เพลิดเพลินกับโมบายของหมอแวนก็หัวเราะใส่หน้าแม่ แขนขาสั้นป้อมเป็นปล้องถีบอากาศอย่างชอบใจ

“ไงครับ ลูกชายแม่ คิดถึงแม่ไหมเอ่ย?”

“ฮื่อ ๆ”

ถึงจะยังพูดไม่ได้แต่เหมือนน้องนาทีกำลังขานรับ ดวงตาสีเหล็กนั้นเป็นประกายแวววาวอย่างดีใจ

“คุณหมอครับ ผมเตรียมอุปกรณ์ทำแผลไว้ให้แล้วครับ”

“ขอบใจมากนะจ๊ะเกมเพลย์”

เกมเพลย์เห็นเจ้านายมีแผลแถมเดินขากะเผลกเข้ามาในบ้านเลยตระเตรียมทุกอย่างไว้โดยไม่ต้องรอให้เซลีนสั่ง ตอนนั้นเองที่มีเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน

“อ้อ เพื่อนบ้านน่าจะเอาแกงมาให้น่ะค่ะ เขาบอกพี่เมื่อตอนบ่ายว่าวันนี้จะทำแกงเขียวหวานแบ่งมาให้ พี่ไปเปิดเองค่ะ คุณหมอไปอาบน้ำก่อนเถอะนะคะ จะได้ออกมาทำแผลแล้วก็ทานข้าวพร้อมกัน”

“โอเคค่ะพี่ไก่ ไว้เดี๋ยวแม่ออกมานะครับน้องนาที” เธอรับคำพี่ไก่แล้วหันไปบอกกับลูกชาย ทั้งที่ใจอยากอุ้มลูกเสียเดี๋ยวนี้แต่เพราะไม่รู้ตัวเองพาเชื้อโรคอะไรติดมาจากที่ทำงานบ้างเลยต้องเข้าไปอาบน้ำก่อน

คนที่มากดกริ่งไม่ใช่เพื่อนบ้านแต่คือคนที่ช่วยเหลือลูกชายของตนไว้เมื่อหลายวันก่อน พี่ไก่ยิ้มให้คุณหมอหนุ่มรูปหล่อที่มองบางมุมก็คล้ายน้องนาทีอยู่เหมือนกันแล้วก็เปิดประตูรั้วออกไปถาม

“มาถึงนี่เลย มีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่าคะ”

“พี่ครับ เจ้านายพี่ชื่ออะไรครับ” องศาถามเสียงเครียด ท่าทางร้อนใจอย่างน่าประหลาด “ผมถามว่าเจ้านายพี่ชื่ออะไร”

“ชื่อเซลีนค่ะ คุณหมอเซลีน”

พี่ไก่ละล่ำละลักตอบ แต่ไม่ทันไรองศาก็พรวดเข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน

เขารู้สึกว่าเซลีนยอมให้เขามาส่งที่บ้านง่ายเกินไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอถึงขั้นปลอมที่อยู่ให้ฝ่ายบุคคล ไหนจะสลัดเขาหลุดตลอดตอนที่เขาขับรถตาม ก็เลยจอดแอบไว้ข้าง ๆ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยแล้วเดินไปกินอาหารตามสั่งที่เปิดเพิงขายตรงหน้าบ้านหลังนั้น

องศารอดูว่าเซลีนจะออกมาหรือไม่ เพราะถ้านั่นไม่ใช่บ้านเธอจริง ๆ ก็หมายความว่าเธอต้องมั่นใจก่อนว่าเขากลับแล้วค่อยออกมา

แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด เขาหลบอยู่ในร้านตอนเธอยืนรออูเบอร์แล้วก็เรียกวินแถวนั้นให้ขับตามมา จนมาถึงบ้านหลังนี้

บ้านเจ้านายของเด็กชายเกมเพลย์

เจ้านายที่เป็นศัลยแพทย์เหมือนกันกับเขา ทำงานที่เดียวกับเขา และเธอยังหย่าร้างกับสามีแล้วพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ทีหลัง

ที่สำคัญเธอมีชื่อว่าเซลีน...

เขาสงสัยมาตลอดว่าสิ่งที่เธอซ่อนเอาไว้ที่บ้านคืออะไร แปลกใจเรื่อยมาว่ากลิ่นหอมแปลก ๆ ที่คล้ายนมซึ่งติดตัวเธอตลอดเวลาคือสิ่งไหน ไม่เข้าใจเสมอมาว่าทำไมเธอถึงหวงตู้เย็นในที่ทำงานนักหนา โมบายที่หมอแวนซื้อมาให้ตอนกินข้าวกลางวันด้วยกันวันนั้นกับที่เธอชิงบอกก่อนว่าน้องนาทีเป็นลูกของเพื่อนบ้าน

ลูกเพื่อนบ้านหรือลูกของเธอกับเขากันแน่

แล้วไหนจะเสื้อเธอที่มักจะเปียกเป็นดวง ๆ ตรงหน้าอกนั่นอีก ตอนนั้นที่ให้เธอขี่หลังเขาก็รับรู้ได้ว่ามีของเหลวบางอย่างซึมผ่านเสื้อของเธอมา ตอนนี้ยังไม่แห้งเลย ความเป็นเหตุเป็นผลทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาในหัวองศาจนมันมึนตื้อไปหมด ส่วนน้ำตามันก็กำลังจะไหล

เขาจะใช่พ่อของเด็กน้อยคนนั้นไหมนะ...

เขาเป็นผู้ชายโชคร้ายคนนั้นที่ไม่มีโอกาสได้ดูแลลูกน้อยหรือเปล่า ในเมื่อจากคำบอกเล่าของเด็กชายเกมเพลย์มันชี้มาที่เขาทั้งหมด

คืนที่หักหาญน้ำใจเธอเขาเมามากและไม่ได้ป้องกัน ตอนพาส่งโรงพยายาลได้ยินเซลีนบอกกับพยาบาลว่าต้องการยาคุมฉุกเฉิน

เขาเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกเขาจะไม่มีวันได้เกิดจากท้องของเธอ หากก็เข้าใจได้ถ้าเธอจะไม่ต้องการให้เด็กเกิดมาจากเหตุการณ์นั้น เป็นเขาก็คงจะทำเหมือนกัน

แล้วนี่อะไร?

เซลีนไม่ได้กินยาคุมหรือมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนอย่างเธอไม่ใช่ผู้หญิงสะเพร่าหรือไม่รักตัวเองแบบนั้นนี่นา

ทันทีที่เข้าไปในบ้านได้เขาก็มองหาทั้งแม่และลูกเป็นอันดับแรก เขาไม่เจอเซลีน แต่เห็นเปลทารกตั้งอยู่ทางปีกซ้าย ซึ่งเกมเพลย์ที่ได้ยินเสียงเอะอะของแม่ที่วิ่งตามมาห้ามองศาก็ยืนอยู่ไม่ห่าง ราวกับกำลังอารักขาเด็กน้อย ทว่าองศาก็ปรี่เข้าไปหาเปลแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น

“อย่าเข้ามายุ่งกับน้องนาทีนะครับ”

ท่าทางไม่เป็นมิตรทำให้เด็กชายผลักอกเขาออกไป แต่องศาก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

“ขออาได้เห็นหน้าเด็กคนนี้สักครั้งเถอะ เด็กอาจจะเป็นลูกอา”

องศาอ้อนวอนทั้งน้ำตา จากระยะนี้เขามองเห็นเพียงแขนป้อม ๆที่ตีอากาศอยู่เท่านั้น หากเขาไม่ได้เห็นหน้าเขาคงต้องเป็นบ้าตายแน่ ๆ

เกมเพลย์เสมองแม่ตัวเอง หล่อนกลัวองศาเหมือนกันแต่ในเมื่อผู้ชายคนนี้ทำงานที่เดียวกับหมอเซลีน แถมหน้าตายังคล้ายกับน้องนาทีราวกับเป็นพ่อลูกกัน หล่อนก็อยากสิ้นสงสัย จึงพยักหน้าให้บุตรชาย

เกมเพลย์ที่พูดกับคนเป็นแม่ตั้งแต่แรกแล้วว่าหมอองศามีความคล้ายคลึงกับน้องน้อยก็หลีกทางให้

องศาเยี่ยมหน้าเข้าไปในเปล ทารกน้อยยิ้มตาเป็นประกาย แก้มตุ้ย ๆ เหมือนซาลาเปาแดง ๆ ช่างน่าหยิกเสียจริง ตอนนั้นสองมือสองเท้าพยายามจะจับโมบายที่ห้อยอยู่ให้ได้และท่าทางจะอารมณ์ดีเสียด้วย

แต่ไม่ว่าจะเป็นตา คิ้ว จมูก ปาก หรือว่ารูปหน้า ล้วนแต่ถอดแบบมาจากเขาในวัยทารกทั้งสิ้น

ถ้าไม่ใช่ลูกเขา เด็กคนนี้ก็คงจะออกมาจากกระบอกไม้ไผ่!

เขาค่อย ๆ อุ้ม ‘ความลับ’ และ ‘ความรัก’ ที่เซลีนได้ซุกซ่อนไว้ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เจ้าก้อนนุ่มนิ่มไม่กลัวเขาเลย กลับหัวเราะชอบใจแล้วตีแก้มเขาแปะ ๆ

องศารู้สึกเหมือนหัวใจพองโตและร่างกายกำลังเบาหวิว ความรักที่ไม่คิดว่าจะมากมายเหลือคณาดูเหมือนกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของเขาผ่านสายใยที่เชื่อมเขากับน้องนาทีเอาไว้ด้วยกัน

วินาทีแรกของการเป็นพ่อคนมันให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อะไรอย่างนี้

“ว่าไงครับ น้องนาทีลูกพ่อ”

“ฮื่อ ๆ”

พอเขาเรียกว่าลูก น้องนาทีก็หัวเราะราวกับตอบรับคำพูดของเขา ดวงตาสีเหล็กเปล่งประกายคล้ายเกลียวคลื่นกระทบแสงแดดในยามเช้า ใจที่อ่อนล้าของเขากลับมีแรงพลังขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ

“พ่อขอโทษนะครับที่เพิ่งรู้ว่ามีหนู”

“ฮื่อ...”

“ต่อไปนี้พ่อจะดูแลหนูไม่ห่างไปไหนอีกแล้วนะครับ”

“แฮะ ๆ”

ทารกน้อยหัวเราะชอบใจเพราะคนเป็นพ่อกำลังทำหน้าหยอกเย้า ทว่าน้ำใส ๆ กลับไหลออกมาจากดวงตาคู่คม

ผนังใกล้กันนั้นมีภาพ portrait ของเซลีนแขวนอยู่ เจ้าหล่อนเปลือยกายและถ่ายจากมุมด้านข้าง มือขวาปิดทรวงอกตัวเอง ขาซ้ายยื่นไปข้างหน้าและพับเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อปกปิดส่วนที่ไม่อยากให้มองเห็น

ส่วนที่ขยายเด่นชัดมีเพียงหน้าท้องขนาดไม่ใหญ่ที่คนในภาพมองอย่างแสนรัก แสดงให้เห็นว่าตอนท้องไม่มีส่วนไหนเลยที่อ้วนเผละนอกจากหน้าท้อง และตลอดเวลาที่เซลีนมีเด็กคนนี้อยู่ เธอไม่ได้จงเกลียดจงชังเด็กเลย ต่อให้จะมีคนเป็นพ่ออย่างเขาให้รักเธอหรือไม่ก็ตาม

เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงมีน้องนาทีเกิดมาบนโลกใบนี้ แต่เขาดีใจเหลือเกินที่เธอยังเก็บลูกไว้

ทำให้รู้ว่าเซลีนแตกต่างจากมารดาเขา...

เธอเป็นตัวอย่างของความรักและเป็นคนที่คู่ควรกับความรักมากเหลือเกิน

“พี่ไก่ปล่อยให้เขาเข้ามาเหรอคะ”

เสียงของเซลีนทำให้ทุกคนหันไปทางเดียวกัน องศามองเมียรักผ่านม่านน้ำตา เซลีนทั้งตกใจทั้งโมโหที่เห็นองศาอยู่ในบ้านแถมตอนนี้ยังอุ้มน้องนาทีอยู่ในอก

“พี่พยายามห้ามเขาแล้วนะคะหมอ”

พี่ไก่บอกละล่ำละลัก

เซลีนไม่ได้ยินอะไรแล้ว ขาสั่น ๆ ของเธอก้าวกะเผลก ๆ เข้าไปหาเขา พลันน้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนก็ไหลรินคล้ายเขื่อนกั้นน้ำตาพังทลาย

“เซล นี่ลูกของเราใช่ไหม”

“ไม่ใช่”

เธอตอบแบบไม่ต้องคิด แม้จะจนมุมแต่จะไม่ยอมง่าย ๆ อุตส่าห์หนีเขามาหนึ่งปีเต็ม วางแผนทุกอย่างเพื่อให้ความลับยังเป็นความลับต่อไป

แต่ทำไมนะทำไม... แผนถึงต้องมาแตกย่อยยับอย่างนี้

“ไม่ใช่ได้ยังไง หน้าเหมือนฉันซะขนาดนี้”

“นายก็แค่คิดไปเอง คืนลูกฉันมานะ”

“ไม่จริง ถามสองคนนี้ดูก็ได้ ว่าฉันกับน้องนาทีหน้าเหมือนกันขนาดไหน”

องศาพยกพเยิดไปยังสองแม่ลูกที่ต่างก็อึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“พ่อของน้องนาทีก็คือผู้ชายที่ไปรับไปส่งฉันที่ทำงานบ่อย ๆ ไม่ใช่นาย องศา นายมันก็แค่ผัวเก่า ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่มีวันให้ลูกของนายเข้ามาอยู่ในท้อง”

“เธอใช้นายนั่นตบตาฉันไม่ได้หรอก ตีลังกามองยังรู้ว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง อ้อนแอ้นเสียขนาดนั้น”

ยัยนุ้งเคยเตือนแล้วแท้ ๆ ว่านี่เป็นตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ แต่เธอก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ถึงเลยให้เพื่อนของฝ่ายนั้นมาแสดงเป็นแฟนกำมะลอ แต่ไม่คิดว่าองศาจะจับได้ตั้งแต่แรก

“แฮ่ ๆ”

น้องนาทีหัวเราะขัดจังหวะพ่อแม่ ถึงตอนนี้เซลีนไม่รู้แล้วว่าไอ้

ต้าวก้อนจ้ำม่ำจะอยู่ข้างพ่อหรือแม่กันแน่

“เห็นไหม ลูกยังเห็นด้วยเลย”

องศามันขี้ตู่ ชอบมั่วและหลงตัวเองแบบนี้เสมอเลยสินะ เธอชักจะหมดความอดทนกับเขาเต็มที

“ขอร้องเถอะอง ส่งลูกมาให้ฉัน ตัวนายมีเชื้อโรคอะไรติดมาบ้างก็ไม่รู้”

องศาชะงัก จริงอย่างที่เธอว่า เขาเพิ่งกลับจากที่ทำงานซึ่งมันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค มาอุ้มลูกแบบนี้อาจทำให้ลูกไม่สบายได้ ชายหนุ่มจึงส่งไอ้ต้าวจ้ำม่ำคืนสู่อกแม่ แม้ลึกในใจจะกลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้อุ้มลูกอีก

“อือ อือ แจะ แจะ” พอเข้าอกแม่น้องนาทีก็ทำปากแจะ ๆ บ่งบอกว่ากำลังหิวนม

“หิวนมแล้วเหรอครับ คนเก่ง”

“ฮื่อ”

เซลีนพยายามใช้ไหล่เช็ดน้ำตาตัวเองแต่ก็ดูเงอะงะ องศาเลยเข้าไปใกล้ ค่อย ๆ ยื่นมือเข้าไปปาดไล้น้ำตาออกจากใบหน้าเนียนสวยจนหมด ความอบอุ่นส่งผ่านท่าทางอ่อนโยนนั้นเข้าสู่หัวใจเธอช้า ๆ

หญิงสาวช้อนตามองเขาและมีหลากหลายความรู้สึกในดวงตาหม่นเศร้าของเธอ กับองศาเองก็เช่นกัน

“ให้นมลูกก่อนเถอะ แล้วระหว่างนั้นเราก็มาคุยกัน”

เขาบอกอย่างคนใจเย็น เซลีนได้แต่ถอนหายใจ อยากร้องไห้อีกหลาย ๆ หน เพราะในเมื่อองศามองออกทุกอย่างแบบนี้ เธอก็เหมือนไร้ซึ่งทางหนีแล้วทุกทาง

+ + +

เซลีนนั่งให้นมน้องนาทีอยู่ที่โซฟา ด้านองศาก็ไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลที่เกมเพลย์เตรียมไว้ก่อนหน้านี้เข้ามานั่งบนพื้นข้างล่าง เธอปรายตามองเขานิดหนึ่ง แล้วขยับเท้าหนีพร้อมกับหันข้างให้ แต่คนหน้าด้านก็ขยับตามมาดึงเท้าเธอไปวางบนตักตัวเอง

“จะทำแผลให้”

“ไม่ต้องหรอก”

“ก็ปฏิเสธตลอด แล้วฉันเคยฟังเธอไหม?” ก็ไม่

เซลีนไม่ชอบใจเลยที่องศาเอาแต่ทำตามใจตัวเองโดยไม่สนว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไรแบบนี้

“ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ประคบข้อเท้าเลยใช่ไหม” องศามองข้อเท้าบวมปูดของเมียรักแล้วเงยหน้ามองเธอ

“ก็จะให้เอาเวลาที่ไหนไปประคบล่ะ”

“ถ้าไม่มัวเอาเวลาไปตบตาฉันเรื่องบ้านก็คงมีอยู่หรอก”

เธอส่งค้อนวงใหญ่ให้คนรู้ทัน

“ฉันไปเก็บเคสต่างหาก”

“เจ็บขนาดนั้นก็ยังจะไป เค้าเรียกคนไม่เจียมตัวนะที่รัก”

“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้!”

เซลีนแหวเสียงดัง ทำให้น้องนาทีดิ้นแรงและร้องอย่างไม่ชอบใจเพราะเจ้านุ่มนิ่มไม่ชอบเสียงดัง

“โอ๋ ๆ แม่ขอโทษนะครับ”

“น้องนาทีต้องดุคุณแม่บ่อย ๆ นะครับ เขาชอบดื้อกับคุณพ่อ”

เธอมองเขาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ แต่ก็ยอมให้องศาทายาที่ข้อเท้าให้ แถมยังทำแผลที่ข้อศอกจนเรียบร้อย ชายหนุ่มเอาอุปกรณ์ไปเก็บ แล้วกลับมานั่งจ้องหน้าแม่ของลูกอยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไร

เขารอเวลาที่เธอพร้อมจะคุย

แต่ถ้าไม่... เธอก็ควรรู้ไว้ว่าเขาจะนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าเธอจะพร้อม

ในที่สุดคนที่ทนสายตากดดันของไอ้คนหน้าด้านไม่ไหวก็ต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาว่า

“ยาคุมหลุด ฉันเพิ่งมารู้ตอนหนีมาที่นี่ได้เดือนนึง”

เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ว่าเซลีนไม่มีทางสะเพร่ากับเรื่องแบบนี้ แต่เพราะเชื้อเขามันแกร่งแล้วก็แข็งแรง น้องนาทีเลยได้มาดูดนมแม่จ๊วบ ๆ อยู่ตรงนี้

“เธอน่าจะบอกฉันบ้างว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน”

“แล้วนายคิดว่าที่ฉันหนีมามันเพราะอะไร”

องศากลืนน้ำลาย ก็เพราะว่าเขาไม่เคารพการตัดสินใจของเธอ ทำร้ายจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเธอก็ไม่อยากมีเขาอยู่ในชีวิต...

“ฉันขอโทษนะเซล เรื่องที่ฉันทำกับเธอคืนนั้น ฉัน--”

“จะบอกว่าตัวเองเมางั้นสินะ”

“...”

“นายไม่สามารถเอาความเมาของนายไปข่มเหงรังแกใครได้ ฉันคิดว่านายน่าจะรู้ดี แต่นายก็ยังทำ”

“ฉันขอโทษ”

“อย่าพูดถึงมันอีกเลย”

หญิงสาวตัดบท เขาคงไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้จะพูด คิดว่าแค่คำขอโทษจะทำให้เธอลืมได้งั้นหรือ ทุกครั้งที่หลับตา เธอยังเห็นแต่ภาพเขากับเธอบนเตียงนั้นแต่ดันมีนังชู้ร่านรักของเขาซ้อนทับเข้ามาอีกคน เธอแค่ไม่อยากเปลืองพลังชีวิตด้วยการคิดถึงแต่เรื่องนั้น

“อื้อ... ฉันก็ว่าอย่างนั้น เพราะตอนนี้ต้องมาคุยเรื่องของเราสามคน พ่อ แม่ ลูก”

คำว่าเราสามคนให้ความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก เซลีนไม่เคยจินตนาการว่าตัวเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

“จะไม่มีคำว่าเรา เพราะนายจะไม่ได้เป็นใครทั้งนั้นในชีวิตของฉันกับลูก”

“เซล...”

“ฉันบอกนายตั้งแต่คืนนั้นแล้วไง”

แววตาเศร้าสร้อยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเหล็กขององศา ทุกคำพูดและทุกการกระทำในคืนนั้นเธอยังจำมันได้ดี ทั้งพยายามจะทำให้ได้อย่างนั้นเสมอ จนกระทั่งเขาโผล่มานั่นแหละ

‘ถ้าทำแบบนี้ นายจะไม่ได้เป็นแม้แต่ใครสักคนในชีวิตของฉัน’

‘จำเอาไว้ว่าฉันจะเกลียดนายไปจนวันตาย’

ถ้อยคำเหล่านั้นองศาจำได้ขึ้นใจ และเขาเกลียดตัวเองทุกครั้งที่นึกถึงมัน เขาเป็นผู้ชายน่าสมเพชที่ทำผิดต่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วยังมีหน้ามาขอความเห็นใจ

แต่น้องนาทีก็ลูกเขา... ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับลูกมาตลอดหนึ่งปีมันก็ทำให้เขาเสียใจจะแย่อยู่แล้ว

“รู้ไหมเซล ฉันดีใจมากนะที่เธอเก็บน้องนาทีเอาไว้ แถมยังรักเขามาก เพราะแม่ฉัน... เขาไม่เคยอยากเก็บฉันเอาไว้เลย ส่วนพ่อก็ไม่เคยสนใจฉัน เขาอยู่กับแม่เพราะความรับผิดชอบเท่านั้นเอง”

แววตาที่เซลีนมองเขานั้นอ่อนลง องศากำลังใช้เรื่องราวในอดีตเรียกคะแนนความสงสารอยู่ใช่ไหม

“แต่ที่เธอทำมันต่างออกไป เธอไม่ได้รักลูกเพียงเพื่อจะรักษาความสัมพันธ์ของเรา เธอเลี้ยงดูน้องนาทีมาอย่างดี อย่างแม่คนหนึ่งที่รักลูกสุดหัวใจ แล้วฉันเองก็อยากจะรักและดูแลเขาเหมือนที่พ่อคนหนึ่งทำบ้าง ฉันอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง มันจะยากเย็นสักแค่ไหน ทำไมพ่อกับแม่ของฉันเขาทำไม่ได้...”

“...”

“แต่เธอรู้อะไรไหม แค่วินาทีแรกที่ฉันเห็นหน้าน้องนาที ฉันก็ยกให้เขาได้ทั้งชีวิตของฉัน สิ่งที่ฉันคิดว่ามันจะยากมากต่อจากนี้ก็คงจะเป็นฉันจะรักลูกให้มากกว่าที่รักอยู่แล้วได้ยังไง”

“...”

“ฉันอาจไม่ใช่สามีที่ดี แต่เธอให้โอกาสฉันเป็นพ่อที่ดีได้ไหม”

เซลีนอึดอัดที่ต้องทนกับสถานการณ์นี้ ท่าทางอ่อนแอน่าสงสาร ไหนจะแววตาอ้อนวอนน่าเห็นใจกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลหลั่งไม่ขาดสายมันมีอิทธิพลกับหัวใจเธอไม่แปรเปลี่ยน เพราะเคยรักผู้ชายคนนี้มากอย่างไร ตอนนี้เธอก็ยังรักเท่าเดิมอย่างนั้น แต่เธอลืมสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้จริง ๆ

ทั้งเรื่องเขากับแอ้ม และเรื่องที่เขาทำกับเธอในคืนนั้น มันเหมือนเป็นตราบาปในชีวิตเธอไปแล้ว

“กลับไปเถอะองศา ฉันเหนื่อยแล้ว”

หัวใจขององศาปวดหนึบ แววตาเซลีนมีแต่ความจริงจังที่พาความกล้าของเขาปลิวหาย เข้าใจดีว่าเธอคงต้องการเวลา ถึงจะกลัวว่าถ้ากลับไปแล้วจะไม่ได้เห็นเธออีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม องศาก็ไม่อยากขัดใจให้เธอต้องขุ่นเคือง

“พ่อกลับก่อนนะครับ ไอ้เจ้าก้อน”

องศาชะโงกหน้าไปบอกลาลูกชาย น้องนาทีกระตุกยิ้มมุมปากพลางเหลือบมองคนเป็นพ่อ เป็นภาพงดงามที่คงพอทำให้เขาหลับฝันดีได้ในคืนนี้

ระหว่างที่เกมเพลย์เดินไปส่งเขาก็ได้แต่หันกลับไปมองบ้านเป็นระยะ มองเห็นเซลีนนั่งให้นมลูกผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงแล้วนึกเสียดายที่ในอดีตเอาแต่ทำร้ายจิตใจของเธอ

ถ้าตอนนั้นเขาไม่นอกกายนอกใจ มันจะเปลี่ยนไปจากที่เป็นอยู่ไหมนะ องศาสงบจิตสงบใจที่เศร้าเหลือเกินนั้นไว้ก่อนหยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนเพราะคิดแล้วว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง

“สวัสดีครับท่านรองฯ”

‘ครับหมอองศา’

“ผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะครับ”

‘เรื่องด่วนมากเลยเหรอครับ’

“จะว่าด่วนก็ไม่เชิงครับ เพราะเมื่อก่อนผมรอได้ แต่ตอนนี้ผมรอไม่ได้อีกแล้ว”

‘???’

“มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมต้องมาจากกรุงเทพ เรื่องลุงของผม... แต่หมอคีรีต้องสัญญานะครับว่านี่จะเป็นแค่ธุรกิจระหว่างเรา”

ดูเหมือนคำพูดขององศาจะทำให้ฝ่ายนั้นเริ่มไม่ไว้ใจ ซึ่งเขาก็ทำใจมาแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้

‘คุณจะพูดอะไรกันแน่’

“ผมคลุกคลีอยู่ในตลาดมืดมานานครับ ชื่อเสียงของคุณก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยได้ยิน ผมเลยมีข้อเสนอดี ๆ มาให้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณหมอคีรีจะให้เรื่องที่เราคุยกันอยู่นี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนหรือเปล่า’

เมื่อความโลภบังตา เราก็ทำได้แม้กระทั่งทรยศผู้มีพระคุณ และแน่นอนว่าตอนลงนรก เราก็จะฉุดคนทุกคนที่เกี่ยวข้องลงมาด้วย ต่อให้คนคนนั้นจะเคยทำคุณให้เรามากแค่ไหนก็ตาม

ด้านเซลีนพาลูกชายเข้านอนแล้วออกมาทานอาหารเย็นที่พี่ไก่ตั้งโต๊ะเอาไว้ให้ หนึ่งปีที่อยู่ในความคุ้มครองของคุณหมอ พี่ไก่ก็เพิ่งเห็นมื้อนี้แหละที่เซลีนไม่เจริญอาหาร

ที่ผ่านมาเธอก็พอรู้เรื่องราวชีวิตองศามาบ้าง แต่ไม่ละเอียดขนาดนี้ เพราะเขาไม่เคยเล่าอะไรเลย เธอจึงไม่กล้าเล่าของตัวเอง คิดว่าสำหรับเขามันไม่จำเป็น แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นเพราะเขาไม่ยอมเปิดใจให้กัน

แล้วมันจำเป็นด้วยหรือ?

สำหรับคนอื่นเรื่องนี้คงทำให้องศาถูกมองในมุมที่เปลี่ยนไป แต่สำหรับเซลีนไม่ใช่เลย...

เธอไม่ได้อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้วทั้งนั้น ต่อให้เขาจะโตมาแบบไหน เรื่องที่เป็นอยู่มันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

คนเรามีอดีตด้วยกันทั้งนั้น แต่มันไม่ใช่เหตุผลให้ใครต้องมาเห็นใจ หรือเป็นข้ออ้างให้เราทำร้ายใครได้

อดีตมันเป็นแค่บทเรียนก็เท่านั้น...

ไม่ผิดจากที่เซลีนคิด เพราะองศาเสนอหน้ามารอในบ้านตั้งแต่เช้า ขนาดพี่ไก่กับเกมเพลย์ช่วยกันห้ามแล้วยังเอาไม่อยู่ ตอนนี้เขาเลยได้เข้ามานั่งยิ้มแป้นมองเธอให้นมลูกในห้องเด็กเล็ก

“เมื่อคืนฉันก็บอกนายชัดเจนแล้วนะ”

“เค้าก็ไม่ได้บอกที่รักนี่นาว่าเค้าจะทำตามนั้น”

“นายฟังภาษาคนไม่เข้าใจ หรือว่านายโง่กันแน่”

เธอเอ่ยถามอย่างรำคาญ

ด้านองศาคิดว่าไม่ว่าอย่างไหนก็ไม่ใช่คำชมสักทาง แต่เอาเถอะ... โบราณเขาว่า เมียด่าแปลว่าเมียรัก ต่อให้ไม่รักวันนี้ แต่รักวันหน้า จะด่าวันละล้านรอบเขาก็ยอม

“น้องนาทีก็ลูกเค้านี่นา”

เซลีนจ้องเขาตาขวาง

“ถ้ายังไม่เลิกเรียกแบบนี้ นายจะไม่มีวันได้เห็นหน้าฉันกับลูกอีก”

คำขู่นี้ทำให้คนตัวโตหน้าหงอย นอกจากกลัวจะไม่ได้อยู่ในชีวิตเธอแล้ว นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เขากลัวไม่ต่างกัน

“ขอโทษครับ”

“ฮื่อๆ”

น้องนาทีหัวเราะตาเยิ้ม ไม่รู้เพราะตลกแม่ที่น่ากลัว หรือหัวเราะพ่อที่หงอเป็นหมาหงอยกันแน่

องศาเห็นตัวอวบ ๆ กับแขนขาเป็นปล้องนั่นแล้วก็อยากอุ้มลูกใจจะขาด เมื่อคืนถึงขนาดไม่อาบน้ำเพราะไม่อยากให้กลิ่นลูกจางหายไป แต่เช้านี้ทนกลิ่นตัวเองไม่ไหวแถมกลัวเพื่อนร่วมงานว่าเอา นี่แค่อยากจะมาหากลิ่นอบอุ่นแบบนั้นให้ชื่นใจก่อนไปทำงานก็เท่านั้นเอง

“โธ่... น้องนาทีช่วยคุณพ่อด้วยสิครับ”

“ฮื่อ จ๊วบ ๆ”

ทารกน้อยยังไม่รู้ความแต่กินจุเหลือเกิน เขาอดที่จะขยับเข้าไปใกล้เพราะอยากดูหน้าลูกไม่ได้เลย แต่สาบเสื้อของเมียรักบังหน้าน้องนาทีอยู่ หากทันทีที่เขาจะเอามือไปปัดก็ถูกเซลีนตีเข้าเสียก่อนจนต้องดึงมือกลับมาแล้วถูยิก ๆ

“อ๊ะ! เจ็บนะเนี่ย”

“อย่ามาทำลามกกับฉัน” คุณแม่คนสวยเค้นเสียงบอกดุ ๆ

“บ้าหรือไง ฉันแค่อยากเห็นหน้าลูก”

เซลีนกะพริบตาปริบ ๆ เธอเริ่มจะเหมือนธารีเข้าแล้ว ที่เห็นทรงเลวก็คิดว่าเลว แต่ไอ้บ้าอย่างองศามันไม่น่าจะคิดแค่นั้นนี่นา

“จะไปรู้เหรอ”

คนตัวโตหรี่ตามองพลางยกยิ้มมีเลศนัยพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ มือข้างหนึ่งคล้องรอบเอวคุณแม่ตัวหอมเอาไว้ แกล้งจ้องมองเนินอกขาวอวบของเธอแล้วกัดริมฝีปากเบา ๆ

“หรือเธอคิดแต่เรื่องอย่างว่า เลยอยากให้ฉันทำมากกว่านี้”

“ก็ลองดูสิ” เธอจ้องเขาตาเขม็ง

แววตาที่ทดสอบความกล้าอันน้อยนิดของเขาพาให้คนตัวใหญ่แต่ใจเสาะเมื่ออยู่ต่อหน้าเมียถึงกับกลืนน้ำลาย หากก็ยังไม่ยอมเสียจริต

“รู้อะไรไหม ผีเสื้อมันไม่เคยทำให้ดอกไม้ช้ำ มันแค่มีชีวิตอยู่เพื่อดอมดมและดูดน้ำหวานจากดอกไม้”

“...”

เซลีนบังคับใจตัวเองไม่ให้สั่น ขณะที่สายตาคมกล้ามากความรู้สึกนั้นกำลังมองเรียวปากอวบอิ่มของเธออย่างหลงใหล

องศาใช้นิ้วชี้สัมผัสกลีบกุหลาบสีสวยแผ่วเบา แล้วนำมาแตะกับปากตัวเอง กลิ่นหอมอบอุ่นของเธอที่ผสมกับกลิ่นลูกเหมือนช่วยเพิ่มพลังใจให้เขาได้หลายเท่าตัว

“แล้วฉันก็กำลังพยายามจะเป็นผีเสื้อที่ดี”

ให้ตาย! เธอไม่อยากทนฟังองศาพล่ามอีกแล้ว เพราะแต่ละคำที่พูดออกมาชวนเลี่ยนทั้งนั้น

“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ออกไปให้ห่างจากตัวฉัน”

องศากลืนน้ำลายลงคอ ว่ากันว่าเมียที่ดีคือเมียดุ แต่ตอนนี้เขาชักไม่เห็นด้วยเสียแล้ว ชายหนุ่มถึงกับผละออกทั้งที่เธอยังไม่ทันได้เริ่มนับด้วยซ้ำ แต่ก็ยังบ่นเสียงอ้อมแอ้ม

“คนอะไร สวยซะเปล่า แต่ดุเหมือนหมา”

“องศา!”

“ปละ... เปล่านะ ไม่ได้ว่าอะไร” เขาหันไปปฏิเสธอย่างไวเมื่อ

เซลีนกดเสียงต่ำน่ากลัว “เดี๋ยวไปเตรียมกระเป๋าให้ พอเธอทานข้าวเสร็จเราจะได้ไปทำงานด้วยกัน”

“ไม่ ใครบอกจะไปกับนาย”

“เธอไง”

ไม่รอให้เซลีนด่าไปมากกว่านี้ องศารีบเผ่นออกจากห้องนั้นแล้วออกไปจัดเตรียมทุกอย่างรอเธอ เซลีนรับประทานอาหารเช้าที่พี่ไก่เป็นคนจัดการโดยมีคนหน้าด้านร่วมโต๊ะด้วย จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าและสวมรองเท้าเดินออกไปรออูเบอร์ที่เรียกไว้

“นี่เซล ขายังไม่หายเลย จะเดินไปรออูเบอร์ที่หน้าปากซอยแบบนี้เนี่ยนะ ถ้าเป็นอะไรไปซะคนนึง ลูกจะอยู่ยังไงเคยคิดบ้างไหม”

หัวใจของเซลีนเจ็บหนึบ รู้สึกว่ากำลังถูกองศาป้ายสีว่าไม่รักลูก สองเท้าเลยหยุดกึกแล้วหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เดินตามมา

“ขาฉันหายดีแล้ว มันไม่ได้เป็นอะไรมาก และฉันก็กำลังแสดงความชัดเจน ว่าสิ่งไหนหรือใครบ้างที่ควรอยู่ในชีวิตลูก หนึ่งในนั้นไม่ใช่นาย แล้วกรุณาอย่ามาตัดสินว่าคนที่อุ้มท้องเขามาเก้าเดือนและเลี้ยงดูเขามาจนถึงตอนนี้อย่างฉัน จะคิดน้อยไม่นึกถึงเขาก่อนเป็นคนแรก เพราะนายมันก็แค่เจ้าของน้ำเชื้อเฮงซวยที่เพิ่งจะมารู้ว่ามีเขาได้แค่วันเดียว”

“เห็นทีเราจะไม่ได้ไปทำงานด้วยกันทั้งคู่ถ้ามัวแต่ยืนเถียงกันแบบนี้ เพราะงั้น... ฉันขอโทษนะ”

“ว้าย!!!” หญิงสาวร้องลั่นเพราะองศาปรี่เข้ามาถึงตัวได้ก็ช้อนตัวเธอขึ้นบ่า “ไอ้บ้าองศา ปล่อยฉันลงนะเว้ย”

“ร้องให้ตายก็ไม่ปล่อยหรอก” การกระทำของพวกเขาดูจะเป็นจุดสนใจของชาวบ้านแถวนั้น จนองศาต้องตะโกนบอกไปด้วยว่า “เมียผมขาเจ็บน่ะครับ แต่เธองอนผมไม่ยอมให้ไปส่งง่าย ๆ ขอโทษที่สร้างความรำคาญนะครับ”

เซลีนปฏิเสธยกใหญ่แต่ไม่ทันไรก็โดนยัดเข้าไปในรถของอดีตสามี โดยที่คาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ

แม่งเอ๊ย!

ดิ้นจนเหนื่อย แถมขนตาหลุดไหนจะเครื่องสำอางเยิ้มเพื่ออะไรวะเนี่ย สุดท้ายก็โดนไอ้บ้านี่บังคับให้นั่งรถด้วยอยู่ดี งั้นแม่ขอตากแอร์ฉ่ำ ๆ ให้รองพื้นเซ็ตตัวแล้วกัน ไอ้ผัวเลวจะยังไงก็ช่างหัวมัน

“เดี๋ยวตอนเที่ยงเข้าไปเอานมที่ปั๊มนะจ๊ะ เค้าจะเอาไปส่งให้ลูกที่บ้านเอง เค้าบอกเกมเพลย์ไว้แล้วว่าไม่ต้องมารับ” พอถึงที่ทำงานเขาก็บอกกับเธอหน้าระรื่น

“มันเรื่องอะไรของนายวะ” องศาทำตัวน่าหงุดหงิดชะมัด

“เรื่องของฉันเต็ม ๆ เลย เพราะฉันเป็นพ่อน้องนาที เป็นว่าที่สามีของเธอ แล้วก็นี่...” เขาดึงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตัวเอง “แผ่นซับน้ำนมอย่างดี เห็นน้ำนมพุ่งบ่อย ๆ แล้วในกระเป๋าเธอก็เหลือคู่เดียวไม่ใช่เหรอ”

ค้นกระเป๋าด้วยหรือเนี่ย... ชักจะมากเกินไปแล้วองศา

แต่ยังไม่ทันจะได้ด่า ไอ้คนกวนตีนมันก็ชิงลงจากรถไปเสียก่อน เล่นเอาคนที่อารมณ์ขึ้นถึงกับกำหมัดแน่น แล้วต้องกรี๊ดแบบไม่มีเสียงเพื่อระบายมันออกมา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป